5 ข้อสั่งการ ช่วยปชช. ชายแดนไทย-กัมพูชา ชงค่าตอบแทน ชรบ.

5 ข้อสั่งการ ช่วยปชช. ชายแดนไทย-กัมพูชา ชงค่าตอบแทน ชรบ.

View icon 334
วันที่ 10 ส.ค. 2568 | 11.39 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
5 ข้อสั่งการ ช่วยปชช. ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำในช่วงอพยพ ชรบ.มีส่วนสำคัญมาก ภูมิธรรมจ่อชงครม. เคาะจ่ายค่าจอบแทน 120-240 บาท/วัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการดำเนินงาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงภัย พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

วันนี้ (10 ส.ค.68) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และเลขานุการรมว.มหาดไทย กล่าวว่าในระหว่างการลงพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อให้ความมั่นใจกับประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี  ให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า สถานการณ์การสู้รบปัจจุบันได้สงบลงแล้ว และกำลังเดินหน้าเข้าสู่ระยะของการฟื้นฟูพื้นที่ ให้สภาพสังคมและเศรษฐกิจกลับมาเดินต่อได้เหมือนเดิม

นายชนินทร์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นายภูมิธรรม ได้เรียกประชุมผู้ว่าราชการทั้ง 4 จังหวัด เพื่อติดตามและสั่งการการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ โดยได้สั่งการใน 5 แนวทางสำคัญ  ดังนี้
1 เรื่องการอำนวยความสะดวกในการกลับบ้าน ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมช่วยส่งรถเดินทาง และให้กระทรวงสาธารณสุขช่วยอำนวยความสะดวกรถพยาบาลสำหรับขนส่งผู้ป่วย และผู้สูงอายุช่วยนำพาพี่น้องประชาชนกลับสู่ที่พัก รวมทั้งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดเตรียมสิ่งของอำนวยความสะดวก เตรียมอาหารและเครื่องใช้ เท่าที่จำเป็นให้พี่น้องประชาชนใช้ในช่วงเริ่มต้นหลังจากกลับในที่พักแล้ว

2 เรื่องการสำรวจความเสียหายและการซ่อมแซม ได้มีคำสั่งให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเร่งตรวจสอบความเสียหายของบ้านพัก และสาธารณูปโภคต่างๆในพื้นที่ เพื่อเร่งเบิกจ่ายเงินเยียวยา และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้ประสานดำเนินการกับหน่วยงานของราชการทั้งทหารช่าง, อาชีวศึกษา และโยธาธิการ เพื่อช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนพี่น้องประชาชนให้กลับสู่สภาพโดยเร็ว โดยใช้เงินทดรองจ่ายที่อนุมัติไปแล้วตามกรอบที่ดำเนินการได้

3 เรื่องการลดภาระค่าครองชีพ นายภูมิธรรม เตรียมขอมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้การประปาส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค งดเว้นการเก็บค่าน้ำค่าไฟ เป็นระยะเวลา 2 เดือน ในช่วงเดือน ก.ค.- ส.ค. ในพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย และต้องอพยพในช่วงที่ผ่านมา ตลอดจนช่วงเดือน ส.ค. ที่ได้กลับเข้ามาเริ่มต้นการดำรงชีวิตเหมือนเดิมอีกครั้งจะช่วยบรรเทาค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนในช่วง 2 เดือนนี้ไปพลางก่อนได้

4 การสำรวจการประกอบอาชีพและสาธารณสุข โดยให้กระทรวงสาธารณสุขประเมินและให้ความช่วยเหลือครอบคลุมไปทางประชาชนที่มีการสูญเสียขวัญจากสถานการณ์การสู้รบในช่วงที่ผ่านมา และผู้ปฏิบัติงานทั้งทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ทุกคนในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยให้มีความพร้อมในการกลับมาประกอบอาชีพและเดินหน้าชีวิตอีกครั้ง

5 การตอบแทนเจ้าหน้าที่อาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือ โดยประกาศเตรียมขอมติ ครม. เพื่อดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) รวมถึงเจ้าหน้าที่ต่างๆที่ดำเนินการภารกิจดูแลประชาชนในช่วงอพยพ โดยมีกรอบวงเงินเบิกจ่ายวันละ 120 -240 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการดำเนินงาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ ปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงภัยในช่วงเวลาที่ผ่านมา