กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ตำหนิ แม่ทัพภาคที่ 2 พยายามยั่วยุ-วางแผนรุกรานกัมพูชา

กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ตำหนิ แม่ทัพภาคที่ 2 พยายามยั่วยุ-วางแผนรุกรานกัมพูชา

View icon 168
วันที่ 11 ส.ค. 2568 | 09.35 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกแถลงการณ์ตำหนิ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าพยายามยั่วยุ และวางแผนล่วงหน้ารุกรานกัมพูชา หลังประกาศจะเอา “ปราสาทตาควาย” คืน

วันนี้ (11 ส.ค. 68) ทางกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์หลังจากที่ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ได้พูดถึงเรื่อง จะยึดปราสาทตาควาย และ การปิดปราสาทตาเมือนธม

โดยระบุว่า เมื่อวานนี้ (10 ส.ค. 68) พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ได้แถลงแผนเกษียณอายุราชการ ในอีก 51 วัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
ประการแรก: ยึดปราสาทตาควาย ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมโดยชอบธรรมของกัมพูชา
ประการที่สอง: ประกาศปิดปราสาทตะเมือนธม ซึ่งตั้งอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของกัมพูชา
คำแถลงของแม่ทัพภาคที่ 2 นี้ถือเป็นหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ถึงความพยายามยั่วยุ และวางแผนล่วงหน้าเพื่อรุกรานอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา

โดยการกระทำของแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ข้างต้น ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุในการประชุมวิสามัญ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และละเมิดเจตนารมณ์ของการประชุมวิสามัญของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในการประชุม GBC ครั้งนี้ กัมพูชาและไทยได้ตกลงกันในประเด็นที่ 2 ซึ่งระบุว่าทั้งสองฝ่ายต้องไม่เคลื่อนย้ายกำลังพล รวมถึงการงดลาดตระเวนเกินขอบเขตตำแหน่งปัจจุบัน

ทางกัมพูชาขอย้ำจุดยืนที่แน่วแน่ในการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี และยึดมั่นในหลักการสันติภาพ และปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ซึ่งทางกัมพูชาหวังว่าฝ่ายไทยจะยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ด้วยความจริงใจ เพื่อแก้ไขปัญหาพิพาทเรื่องพรมแดนเพื่อคืนสันติภาพให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยังได้ยื่นคำร้องต่อประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศพันธมิตรที่ได้ทำงานอย่างหนักจนนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้ และขอเรียกร้องให้ประเทศไทยเคารพข้อตกลงหยุดยิงไม่เพียงทางวาจาเท่านั้น แต่ต้องดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมด้วย และหยุดยั้งการละเมิดและยั่วยุทั้งหมด และรื้อลวดหนามที่อยู่ในดินแดนกัมพูชาโดยทันที

ทางโฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ยืนยันว่า สถานการณ์โดยรวมที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงสงบ และทั้งสองฝ่ายควรคงเสถียรภาพนี้ไว้ต่อไป เพื่อร่วมกันปรับปรุงสถานการณ์ให้ดีขึ้น หลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่จะขัดขวางสันติภาพ เสถียรภาพ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นความปรารถนาร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นความปรารถนาของประชาคมโลกอีกด้วย ซึ่งมีข้อความแสดงความยินดีและการสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงมากมายเป็นข้อพิสูจน์ รวมถึงผลลัพธ์เชิงบวกที่เกิดจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา