ไทยโต้กัมพูชา ใช้วัด-โรงเรียน เป็นฐานทหาร

View icon 55
วันที่ 11 ส.ค. 2568 | 11.15 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - กรณีที่ทางการกัมพูชา จัดคณะผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่ดูความเสียหายพื้นที่พลเรือน ซึ่งอ้างว่าถูกทหารไทยโจมตี ทางการไทยก็ออกมาตอบโต้ทันที ยืนยัน จุดที่เสียหายเป็นพื้นที่การสู้รบ และทหารกัมพูชา ใช้เป็นฐานบัญชาการรบ 

กรณีที่ นายเฮง รัตนา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งกัมพูชา หรือ CMAC พาผู้ช่วยทูตทางทหารจาก 9 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ลาว และเวียดนาม ลงพื้นที่หมู่บ้านตาเมือน ตำบลโคกมอน อำเภอบันเตีย อัมพิล จังหวัดอุดรมีชัย     เพื่อร่วมสังเกตการณ์ และตรวจสอบความเสียหายจากระเบิด MK-84 ที่อ้างว่าเป็นของฝ่ายไทยทิ้งลงมา จนสร้างความเสียหาย ทั้งกับวัด โรงเรียน และปั๊มน้ำมัน

นายเฮง รัตนา บอกอีกว่า ระเบิด MK-84 ดังกล่าว มีน้ำหนักเกือบ 1 ตัน ยาวประมาณ 3.5 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางเกือบครึ่งเมตร เฉพาะจุดนี้จุดเดียว ถูกเครื่องบินรบไทย ทิ้งลงมาถึง 10 ลูก โดยมี 4 ลูกที่ระเบิด ขณะที่อีก 6 ลูก ยังไม่ระเบิด รวมถึง MK-84 ที่พบนี้ด้วย และยังบอกอีกว่า จากข้อมูลของกองทัพในพื้นที่แนวหน้าของจังหวัดอุดรมีชัย มีระเบิดตกใส่พื้นที่แถบนี้ทั้งหมด 1,549 ลูก

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. ชี้แจงเรื่องนี้ ว่า เป็นความพยายามบิดเบือน ข้อเท็จจริงโดยฝ่ายกัมพูชา ยืนยันว่าทหารไทยใช้อาวุธต่อเป้าหมายทางทหารตามหลักสากล การใช้อาวุธของฝ่ายไทย มีประสิทธิภาพสามารถจำกัดวงการทำลาย อยู่ในพื้นที่เป้าหมาย

ต่างจากฝ่ายกัมพูชา ที่มุ่งโจมตีเป้าหมายทางพลเรือนของไทย ที่อยู่นอกขอบเขตพื้นที่การรบ หลายจุดมีระยะห่างจากพื้นที่การรบ มากถึง 30 กิโลเมตร มีตำบลกระสุนจากฝ่ายกัมพูชามาตกในพื้นที่พลเรือนรวมกันเป็น 100 จุด ซึ่งฝ่ายไทย ได้จัดทำบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้วอย่างละเอียด ซึ่งกัมพูชามิอาจปฏิเสธ ความจริง และมิอาจปฏิเสธความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และถือเป็นการมุ่งโจมตีต่อเป้าหมายพลเรือนอย่างจงใจ

เรื่องที่กัมพูชาพาคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ลงสำรวจพื้นที่บริเวณ วัดตาเมือนแซนเจย ที่ จังหวัดอุดรมีชัย ซึ่งปรากฏร่องรอยความเสียหายตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างถึงนั้น

ขอเรียนว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่เป้าหมายทางทหาร ซึ่งอยู่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีระยะห่างจากแนวชายแดนเพียง 1.8 กิโลเมตร ไม่ใช่ลึกเข้าไปยังพื้นที่ตอนในไกลถึง 20-30 กิโลเมตร แบบที่ฝ่ายกัมพูชากระทำต่อฝ่ายไทย

ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่ในขอบเขตของพื้นที่การสู้รบ และในห้วงที่มีการสู้รบ พื้นที่ดังกล่าวไม่มีบุคคลพลเรือนอยู่อาศัย มีเพียงทหารฝ่ายกัมพูชา ใช้เป็นพื้นที่รวมพล เพื่อเตรียมการนำกำลังเข้าตีฝ่ายทหารไทย รวมถึงใช้เป็นที่ตั้งในการควมคุมบังคับบัญชาการรบ พื้นที่ดังกล่าวเป็นเป้าหมายทางทหารของฝ่ายไทย ที่อยู่ในขอบเขตบริเวณของพื้นที่การรบในครั้งนี้

ส่วนตัวเลขพลเรือนที่มีบาดเจ็บและสูญเสียในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวตามที่มีการกล่าวอ้างถึงนั้น จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริง หากมีการบาดเจ็บและสูญเสียจะมีเพียงทหารฝ่ายกัมพูชาเท่านั้น

ขอบคุณภาพจาก : Facebook Ministry of Information (Cambodia), Ttak

ข่าวที่เกี่ยวข้อง