รถเทรลเลอร์พุ่งข้ามเลน ชนกระบะอย่างแรง คนขับแม่ลูกอ่อนติดในซากรถเสียชีวิต ตำรวจคาดรถเทรลเลอร์หลับใน รอสอบปากคำเจ้าตัวอีกครั้ง
วันนี้ (11 ส.ค.68) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หน่วยกู้ภัย ฮุก 31 โคราช ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 1669 รพ.มหาราชนครราชสีมา ว่า มีอุบัติเหตุรถเทรลเลอร์ชนกับรถกระบะมีผู้เสียชีวิต บริเวณถนนบายพาสเลี่ยงเมืองนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จึงระดมอาสากู้ชีพ-กู้ภัยลูกข่ายหลายจุด ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือ เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ พบรถเทรลเลอร์สีน้ำเงินบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ เสียหลักพุ่งข้ามฝั่งมาชนเข้ากับรถกระบะสีขาวอย่างแรง จนรถทั้งสองคันพุ่งตกไปข้างทาง โดยส่วนหัวของรถเทรลเลอร์บดขยี้รถกระบะจนพังยับเป็นเศษเหล็กติดออยู่ใต้ท้องรถเทรลเลอร์ ส่วนลูกพ่วงรถเทรลเลอร์หลุดขาดจากตัวแม่ จอดอยู่ไหล่ทาง มีเศษข้าวของที่หล่นกระจายเกลื่อนที่ป่าหญ้าข้างทาง
จากการตรวจสอบ พบว่าคนขับรถกระบะเป็นหญิง เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ โดยร่างติดอยู่ในซากรถกระบะที่ถูกรถเทรลเลอร์ทับ ต้องใช้รถขนาดใหญ่มาเคลื่อนย้ายรถเทรลเลอร์ออกก่อน จึงสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากรถ เพื่อส่งชันสูตรได้ ส่วนคนขับรถเทรลเลอร์ที่ได้รับบาดเจ็บ กู้ชีพ-กู้ภัยฯ ได้ช่วยกันนำส่งรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา แล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า รถเทรลเลอร์คันดังกล่าว ขับมาตามเส้นทางบนถนนบายพาสเลี่ยงเมืองนครราชสีมา มุ่งหน้าไป จ.ขอนแก่น เมื่อใกล้จะถึงจุดเกิดเหตุ รถได้เสียหลักปีนข้ามเกาะกลางถนนมาอย่างรวดเร็ว แล้วพุ่งชนเข้าอย่างจังกับรถกระบะคู่กรณีที่กำลังมุ่งหน้าไปสามแยกปักธงชัย จนเป็นเหตุให้รถทั้งสองคันไถลตกถนนลงไปป่าหญ้าข้างทาง ทำให้คนขับกระบะเสียชีวิตคาที่ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า คนขับเทรลเลอร์น่าจะหลับใน ซึ่งจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสอบปากคำคนขับรถเทรลเลอร์อย่างละเอียดหลังจากอาการดีขึ้นแล้ว เพื่อนำมาประกอบสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนกรณีที่ชาวโซเชียลโพสต์ภาพและให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตกำลังท้อง 8 เดือน เป็นลูกแฝด ทำให้ชาวโซเชียลต่างแสดงความเสียใจ เพราะใกล้วันแม่แล้วนั้น เจ้าหน้าที่ฯ แจ้งว่า เป็นข้อมูลที่คาดเคลื่อน หญิงที่เสียชีวิตเป็นแม่ลูกอ่อน คลอดลูกมาได้สักระยะแล้ว และฝากลูกไว้ให้ญาติช่วยดูแล ไม่ได้กำลังตั้งท้อง 8 เดือนตามกระแสข่าว ซึ่งหญิงเสียชีวิตรายนี้ได้เก็บเอกสารการฝากครรภ์เอาไว้ในรถกระบะคันประสบเหตุ จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดดังกล่าว ตอนนี้เจ้าหน้าที่ฯ ประสานติดต่อญาติแจ้งเหตุให้ทราบแล้ว