หนุ่มวัย 22 ขนไอซ์ครึ่งตัน ลักลอบเข้าไทย นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนอีกคนหลบหนีไปได้ สารภาพ ขนยาได้ค่าจ้าง 150,000 บาท แบ่งกับเพื่อนคนที่หลบหนีคนละครึ่ง และต้องการหาเงินใช้หนี้พนันบอล
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 ที่สถานีตำรวจภูธรเชียงคาน จ.เลย นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พล.ต.ต.วีระเดช เลขะวรกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย พ.ต.อ.ยุทธวัฒน์ โชคชัย รองผบก.ภ.จว.เลย นายอภินันต์ สุวรรณโค นายอำเภอเชียงคาน พ.ต.อ.สันติ ชูเชิด ผกก.สภ.เชียงคาน ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางไอซ์จำนวน 12 กระสอบ น้ำหนักกว่า 449 กิโลกรัม ในพื้นที่อำเภอเชียงคาน
นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เผยว่า จากที่ผลมาจากการมาตรการการซีลชายแดน โดยจังหวัดเลย ได้ขับเคลื่อนหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งภายใต้ยุทธการ Re-X ray และป้อมยามประจำหมู่บ้าน และชุดเฝ้าระวัง – สำหรับสอดส่องและแจ้งเตือนเหตุผิดปกติในหมู่บ้าน ทำให้พื้นที่ติดกับชายแดนมีการจับกุมผู้กระทำผิด และยึดยาเสพติดได้จำนวนมากขึ้น จากการการข่าวของคณะป้อมยามประจำหมู่บ้าน และชุดเฝ้าระวังของแต่ละชุมชน
และจากการข่าวในพื้นที่ จะมีการขนยาเสพติดในช่วงวันหยุดยาว ในพื้นที่อำเภอเชียงคาน หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ประกอบด้วย ตำรวจ สภ.เชียงคาน สถานีเรือเชียงคาน ร้อย.ตชด.246 ทหารพราน และ ปกครอง อ.เชียงคาน ร่วมกันวางแผน และจัดกำลังซุ่มตามจุด เส้นทางขนถ่ายและลำเลียง
จนในช่วงเวลา 01.00 น.วันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ .เชียงคาน ได้ยึดไอซ์ได้ 12 กระสอบ น้ำหนักกว่า 499 กิโลกรัม พร้อมจับกุมนายภูรินทร์ อายุ 22 ปี ต.บ่อทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมกับยึดรถรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง สี่ประตู ทะเบียนจังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้สำหรับบรรทุกยาไอซ์ ซึ่งคนร้ายมาด้วยกัน 2 คน สามารถหนีไปได้ 1 คน และได้จับกุมนายภูรินทร์ อายุ 22 ปี ไว้ได้ และได้สารภาพว่า ขนยาเสพติดครั้งนี้ทำเป็นครั้งแรก ได้รับค่าจ้าง 150,000 บาท แบ่งกับเพื่อนคนละครึ่งที่หลบหนีไปได้ ที่ตนรับงานนี้เนื่องจากตนเล่นการพนันบอลติดหนี้จำนวนมาก จึงตัดสินใจรับงานขนยาไอซ์ ซึ่งข้ามมาจาก สปป.ลาว