กลัวอดตาย ทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 รวบกัมพูชา 50 ชีวิต มีทั้งหญิง ชาย เด็กและทารก พร้อมคนนำพา ลักลอบเข้าไทยทางโป่งน้ำร้อน จันทบุรี หลังเชื่อคำสมเด็จฯ ฮุนเซน กลับเขมรแต่ไม่มีงาน ด้านคนนำพา อ้างเพิ่งทำครั้งแรก เจ้าของสวนว่าจ้างได้ค่าหัวรายละ 1 พันบาท
วันนี้ (13 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้ นาวาเอก ไกรสร โพธิ์ตุน หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 (ร้อยบ้านแหลม) เข้าจับกุมชาวกัมพูชา 50 คน มีทั้งเด็ก ชาย หญิงและทารก ลักลอบข้ามแดนเข้ามาประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ผ่านช่องทางธรรมชาติในพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากชุดปฏิบัติการพิเศษ ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 ทราบว่าจะมีการนำพาแรงงานชาวกัมพูชา ลักลอบกลับเข้ามายังประเทศไทยไปส่งให้ผู้ประกอบการภายในพื้นที่ จึงได้มีการวางกำลังตามแนวชายแดนที่คาดว่ากลุ่มของชาวกัมพูชาจะลักลอบข้ามแดนกลับมา กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. พบเห็นชาวกัมพูชาจำนวนมากทยอยเดินข้ามแดน จากนั้นมีรถยนต์กระบะสีดำขับเข้ามารับแรงงานพาไปที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ตำบลหนองตาคง อำเภอโป่งน้ำร้อน เมื่อเจ้าหน้าที่ได้พยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและควบคุมแรงงานชาวกัมพูชาไว้ทั้งหมด พร้อมด้วยผู้ว่าจ้างนำพาคือ นายสมนึก อายุ 49 ปี
โดยเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจสืบทราบพฤติกรรมของนายสมนึกในการนำพาแรงงานมานานแล้ว เคยเข้าจับกุมหลายครั้ง แต่หลักฐานไม่เพียงพอทำให้นายสมนึกสามารถดิ้นรนไปได้ จนวันนี้เจ้าหน้าที่ได้วางแผนกระทั่งนายสมนึกพาแรงงานเข้ามาที่บ้าน ด้วยตนเอง จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที
จากการสอบถามแรงงานชาวกัมพูชากลุ่มนี้ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้เดินทางกลับบ้านไปเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากได้ทราบประกาศคำเชิญชวนของสมเด็จฯ ฮูน เซน ว่าให้กลับบ้านจะมีงานให้ทำ มีเงินใช้ ตนจึงเดินทางกลับบ้าน เมื่อกลับไปพบว่าไม่เป็นอย่างคำโฆษณาชวนเชื่อ ไม่มีงาน และไม่มีเงินกินข้าว จึงกลัวอดตายพยายามหาวิธีที่จะกลับเข้ามายังประเทศไทยเหมือนเดิม หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการบันทึกข้อมูลและทำเอกสารเสร็จแล้ว จึงทำการคัดแยกชาวกัมพูชาเพศชายจะนำไปฝากขังไว้ที่สถานีตำรวจ ส่วนชาวกัมพูชาที่เป็นเพศหญิงและเด็กจะนำไปไว้โรงพักพิงใกล้เคียงกับจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลมก่อน เพื่อรอผลักดันในวันพรุ่งนี้เช้าต่อไป
นาวาเอกไกรสร กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการแกะรอยสืบสวนพฤติกรรม จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ โดยแรงงานกลุ่มนี้ให้ข้อมูลว่าเดินทางกลับบ้านตามคำโฆษณาชวนเชื่อ สุดท้ายไม่มีกินกลัวอดตาย จึงหาวิธีเดินทางกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง ตอนนี้อยากฝากถึงชาวไทยที่จะทำอาชีพนำพาแรงงานเข้าประเทศว่าอย่าทำ เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติ เจ้าที่ทหารตำรวจจะปฎิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ขอให้รักประเทศไทย
นายสมนึก กล่าวว่า ตนเพิ่งนำแรงงานเข้ามาเป็นครั้งแรก โดยมีเถ้าแก่เจ้าของสวนเป็นคนว่าจ้างให้ไปรับ ได้ค่าจ้างเป็นรายหัว หัวๆ ละพันกว่าบาท ทั้งนี้ ตนมีแรงงานที่รับมาเพียง 8-9 คน ส่วนนอกนั้นเป็นของเจ้าอื่น ซึ่งมีเพื่อนร่วมอาชีพที่ทำแบบนี้อีกหลายคน
