วันนี้ ( 13 ส.ค. 68) จากเหตุการณ์ทหารพรานได้รับบาดเจ็บครั้งนี้ ทางจุฬาฯ นำโดยอธิการบดี ได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลสุรินทร์ และได้ร่วมให้กำลังใจแก่ภรรยาและครอบครัวของทหารพราน ที่มาเฝ้าติดตามอาการด้วยความเป็นห่วง
ภรรยาของ สิบเอก ธีรพล เพียขันที ทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บ เหยียบทุ่นระเบิด น้ำตาซึม หลังได้พูดคุยกับนายแพทย์ชวมัย สืบนุการณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ และศาสตราจารย์ ดร. วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับคำยืนยันว่า สิบเอก ธีรพล พ้นขีดอันตรายแล้ว และมีอาการปลอดภัย
โดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ เปิดถึงการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุยิงปะทะบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าโรงพยาบาลสุรินทร์ รับดูแลทหาร 3 นาย และพลเรือน 1 คน
อาการโดยรวมทั้งหมดปลอดภัยดี สภาพร่างกายฟื้นตัวได้ดี และจิตใจดีขึ้นตามลำดับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ เปิดใจว่า หากหายดีแล้ว พร้อมปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า ร่วมกับเพื่อนทหารปกป้องอธิปไตยทันที
นพ.ชวมัย สืบนุการณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ เปิดเผยว่า “พวกเราได้มีแผนด้านการปฏิบัติการอย่างเต็มที่ สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้เราได้ดูแลพี่น้องทหารหาญ และพี่น้องประชาชนที่ได้ประสบเหตุทุกท่านปลอดภัย รวมถึงรายล่าสุดด้วย ที่ปฏิบัติการช่วยพี่น้องทหารที่บาดเจ็บ สถานการณ์อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยแสดงความคลายกังวลไปได้ดีทีเดียวครับ”
ขณะเดียวกัน ในวันเดียวกันนี้ คณะผู้บริหาร และนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดย ศาสตราจารย์ ดร. วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ พันเอก จิรัฏฐ์ ช่วงฉ่ำ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ลงพื้นที่โรงพยาบาลสุรินทร์ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจทหารและพลเรือน ที่กำลังพักฟื้นหลังได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชาด้วย
โอกาสนี้ จุฬาฯ ได้รับนางสาวตะวันฉาย ลินลา ภรรยาทหารที่เสียชีวิต เข้าศึกษาต่อและให้ทุนการศึกษา เพื่อยกย่องผู้เสียสละ และสานต่อความฝันครอบครัว ในวิชาชีพพยาบาล ที่ขณะนี้ปฏิบัติหน้าที่พยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ในสาขาการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต

ศ. ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “ไม่มีอะไรที่จะต้องห่วงใยนะครับ ทุกคนประชาชนคนไทยจะช่วยดูแลครอบครัวให้นะครับ ขอชื่นชมในความเสียสละความกล้าหาญ แล้วในฐานะประชาชนคนไทยวันนี้เราต้องรวมพลังกัน เราคอยดูแลซึ่งกันและกันในบทบาทของแต่ละครเท่าที่จะทำได้ ที่สำคัญมาก ๆ คือส่งกำลังใจ ให้คุณหมอคุณพยาบาล ท่านผอ.รพ.สุรินทร์ รวมถึงประชาชนที่อยู่แนวชายแดนต้องการกำลังใจ เราส่งกำลังใจและช่วยเหลือไม่ว่าการศึกษา เท่าที่เราจะทำได้”
ด้าน ตะวันฉาย ลินลา ภรรยาทหารที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า “หลังแต่งงานจะเริ่มเรียน ป.โท ตอนแรกก็ยังไม่พร้อม พอมาถึงวันนี้ คิดว่าเป็นโอกาสเดียวที่พี่ ทิ้งไว้ให้ พี่ปอนด์จะบอกเสมอว่า ทั้งชีวิตเราไม่มีเงินไม่มีอะไรก็ช่าง แต่เรามีการศึกษาพาเราไปถึงจุดที่เราอยากจะไปได้ ต้องขอบคุณจุฬาฯ มากที่เล็งเห็นโอกาส”
นอกจาก จุฬาฯ รับภรรยาของทหารที่เสียชีวิตเข้าศึกษาและให้ทุนการศึกษาแล้ว ยังได้มอบของใช้จำเป็น หน้ากากอนามัย 20,000 ชิ้น ส่งมอบตาข่ายดักโดรน 20 ชุด ให้แก่ทหาร เพื่อควบคุมและสกัดกั้นภัยคุกคามประเทศ และส่งคณาจารย์และนิสิตแพทย์ร่วมทำงานจริงช่วยเหลือโรงพยาบาลอีกด้วย