ห้องข่าวภาคเที่ยง - “กัน จอมพลัง” ขอแรงคนไทย ให้ช่วยทักมา ใครมีตัวตรวจจับทุ่นระเบิด ขอนำมาเสริมทัพหน้าชุดลาดตระเวน ป้องกันการสูญเสีย พลาดเหยียบทุ่นระเบิดของกัมพูชา
คุณกัน บอกว่า “ผมคุยกับผู้บังคับบัญชาของทหารหน่วยหนึ่ง ตอนนี้ต้องการตัวเครื่องตรวจจับทุ่นระเบิดแบบด่วน 15 ตัว หากใครมีตัวเครื่องตรวจจับฯ ขอให้ทักมา จะนำไปให้ชุดลาดตระเวน ซึ่งลักษณะของตัวเครื่องด้านนอกเป็นพลาสติก แต่ด้านในมีเหล็ก จึงยังคงตรวจจับได้”
ทีมข่าวสอบถามไปยัง คุณกัน บอกว่า ตอนนี้มีหลายบริษัทเสนอเข้ามา ซึ่งตนพร้อมจะพิจารณา เปรียบเทียบเพื่อให้ได้ของที่ดีที่สุด หากได้แล้วก็พร้อมจัดซื้อทันที และส่งให้แนวหน้าไว้ใช้งาน
คุณกัน บอกว่า ผ่านมา 30 วัน ทหารไทยพลาดไปเหยียบทุ่นระเบิดกัมพูชาแล้ว 5 นาย หากช้าไปกว่านี้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อผู้ปฏิบัติหน้าที่มากขึ้น จึงอาสาขอซื้อและมอบให้แทน
ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดที่ทหารกัมพูชาลักลอบฝังทิ้งไว้ การตอบโต้ของไทยต้องยอมรับว่าตอนนี้ทำได้เพียงการประท้วง การประณามต่อกัมพูชา รวมถึงเรียกร้องไปยังนานาชาติ ประท้วงในสิ่งที่กัมพูชากระทำ และขอให้ตัดการช่วยเหลือเงินทุนที่จัดสรรให้กัมพูชาใช้จัดการกู้ทำลายทุ่นระเบิด เพราะดูเหมือนว่าปัญหาจะไม่ได้ลดน้อยลง กลับพบว่ามีการวางระเบิดใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น
แต่หากจะหวังให้กัมพูชา หรือ นานาชาติ หันมาสนใจแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง มีคำถามว่า ทหารไทยจะต้องเสียขาไปอีกกี่นาย
เมื่อวานนี้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ก็ออกมาบอกว่า หลังจากนี้จะต้องเซฟกำลังพลที่ออกลาดตระเวนให้มากขึ้น อาจต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการลาดตระเวน อาทิ ใช้เครื่องสแกนทุ่นระเบิด กล้องวงจรปิด อุปกรณ์ไฮเทคต่าง ๆ รวมถึงใช้เครื่องจักรหนักเข้าเคลียร์พื้นที่ที่มีความเสี่ยงจะถูกวางทุ่นระเบิด
แนวคิดของแม่ทัพภาคที่ 2 ในการปรับแผนลาดตระเวนของทหาร โดยการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่กับการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามแนวชายแดน สามารถใช้งานได้จริงในพื้นที่มากน้อยแค่ไหน
นายอนาลโย กอสกุล ที่ปรึกษา กมธ.การทหาร สภาผู้แทนราษฎร แอดมินเพจ ThaiArmedForce เผยกับทีมข่าวว่า การใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าเคลียร์พื้นที่ไม่สามารถใช้แทนลาดตระเวนเดินเท้าได้หมด ถือเป็นวิธีกดดันกัมพูชาที่ดี และขอเสนอไปยังการประชุม RBC ว่าเราจะเริ่มปฏิบัติเก็บกู้วัตถุระเบิดครั้งใหญ่ เรียกร้องให้กัมพูชาเข้ามาร่วมภารกิจในครั้งนี้ด้วย หากไม่ร่วมถือว่ากัมพูชามีเจตนาที่ไม่ดี ต้องแสดงความจริงใจในการช่วยเก็บกู้ทุ่นระเบิด
ส่วนกล้องวงจรปิดช่วยบันทึกหลักฐาน ตรวจสอบ แจ้งเตือนแทนการใช้คน แต่ต้องยอมรับว่าชายแดนเราค่อนข้างยาว อาจต้องใช้กล้องวงจรปิดหลายพันกล้อง ในระยะสั้น อาจจะครอบคลุมพื้นที่ได้ไม่มาก ส่วนในระยะยาว เราสามารถสร้างกำแพงตามแนวชายแดนได้ การใช้กล้องวงจรปิดสามารถใช้แทนการเดินเท้าลาดตระเวนได้
เครื่องตรวจจับทุ่นระเบิด PMN-2 ต้องเป็นเครื่องที่ตรวจจับโดยการใช้คลื่นเรดาร์ยิงเข้าไปในพื้นดินให้สะท้อนออกมา ส่วนมากอุปกรณ์เหล่านี้ ออกแบบมาให้เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดมาใช้งาน ค่อย ๆ เดินสแกนหา ค่อนข้างช้า ต้องยอมรับว่าไม่ได้ออกแบบมาให้เจ้าหน้าที่ลาดตระเวน โดยทฤษฎี เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนไม่ได้ถือเครื่องนี้แล้วไปเดินลาดตระเวน เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่เก็บกู้ทุ่นระเบิดมากกว่า ซึ่งชายแดนมีระยะทางยาวมาก เราไม่ได้มีกำลังคนมากพอ จึงเป็นที่มาของแนวคิด ใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เปิดทางลาดตระเวน เพื่อลดความสูญเสีย