ปรับแผนลาดตระเวน ลดภัยทุ่นระเบิดกัมพูชา

View icon 134
วันที่ 13 ส.ค. 2568 | 16.04 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แนวคิดของแม่ทัพภาคที่ 2 ในการปรับแผนลาดตระเวนของทหาร โดยการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ กับการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามแนวชายแดน สามารถใช้งานได้จริงในพื้นที่มากน้อยแค่ไหน

ย้อนกลับไปในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด สูญเสียขาถึง 5 นาย เริ่มตั้งแต่ พลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน เหยียบทุ่นระเบิดที่ช่องบก อุบลราชธานี, จ่าสิบเอก พิชิตชัย บุญชูหล้า ที่ช่องอานม้า อุบลราชธานี, ร.ต. เกียรติวงศ์ สถาวร ที่ปราสาทตาควาย สุรินทร์, จ่าสิบเอก ธานี พาหา ที่รอยต่อโดนเอาว์-กฤษณา ศรีสะเกษ และครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ ส.อ. ธีรพล เพียขันที บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ จึงเป็นที่มาของแนวคิด พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่า จะปรับแผนลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ ด้วยการใช้เครื่องจักรหนักเข้าเคลียร์พื้นที่

นายอนาลโย กอสกุล ที่ปรึกษา กมธ.การทหาร สภาผู้แทนราษฎร เผยกับทีมข่าวว่า การใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าเคลียร์พื้นที่ ไม่สามารถใช้แทนการลาดตระเวนเดินเท้าได้หมด ถือเป็นวิธีกดดันกัมพูชาที่ดี และขอเสนอไปยังการประชุม RBC ว่า เราจะเริ่มปฏิบัติเก็บกู้ทุ่นระเบิดครั้งใหญ่ เรียกร้องให้กัมพูชาเข้ามาร่วมภารกิจในครั้งนี้ด้วย หากไม่ร่วม ถือว่ากัมพูชามีเจตนาที่ไม่ดี ต้องแสดงความจริงใจในการช่วยเก็บกู้ทุ่นระเบิด ยอมรับว่า บางพื้นที่เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าถึงไม่ได้ เนื่องจากภูมิประเทศเป็นภูเขา ในความเป็นจริงไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ส่วนใหญ่ แต่เป็นวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหา คือ กัมพูชาไม่ยอมรับในการวางทุ่นระเบิด 

ส่วนกล้องวงจรปิด เป็นแนวคิดที่น่าสนใจ ช่วยบันทึกหลักฐาน ตรวจสอบ แจ้งเตือนแทนการใช้คน แต่ต้องยอมรับว่า ชายแดนเรามีระยะทางค่อนข้างยาว อาจต้องใช้กล้องวงจรปิดหลายพันกล้อง ในระยะสั้น อาจจะครอบคลุมพื้นที่ได้ไม่มาก ส่วนในระยะยาว เราสามารถสร้างกำแพงตามแนวชายแดนได้ การใช้กล้องวงจรปิดสามารถใช้แทนการเดินเท้าลาดตระเวนได้

เครื่องตรวจจับทุ่นระเบิด PMN-2 มีหลายวิธีใช้ ปกติแล้วจะใช้เครื่องแสกนไปตามพื้นที่ ตรวจจับโลหะ แต่ในกรณีของทุ่นระเบิด PMN-2 เป็นพลาสติกทั้งนั้น ไม่มีโลหะ ดังนั้น ต้องเป็นเครื่องที่ตรวจจับได้โดยการใช้คลื่นเรดาร์ยิงเข้าไปในพื้นดินให้สะท้อนออกมา ส่วนมากอุปกรณ์เหล่านี้ออกแบบมาให้เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดมาใช้งาน เดินสแกนหาค่อนข้างช้า เมื่อเจอจึงค่อย ๆ กู้ออกมา ต้องยอมรับว่าไม่ได้ออกแบบมาให้เจ้าหน้าที่ลาดตระเวน

โดยปกติแล้วถ้าเราไม่มั่นใจว่าจุดไหนมีสนามทุ่นระเบิด จะให้เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) เข้าไปสแกนก่อนจนมั่นใจก่อนจะเดินลาดตระเวน ดังนั้น โดยทฤษฎี เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนไม่ได้ถือเครื่องนี้แล้วไปเดินลาดตระเวน เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่เก็บกู้ทุ่นระเบิดมากกว่า ซึ่งชายแดนมีระยะทางยาวมาก เราไม่ได้มีกำลังพลเพียงพอ จนเป็นที่มาของแนวคิด ใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ เปิดทางลาดตระเวน เพื่อลดความสูญเสีย