หลายชาติในยุโรปเผชิญคลื่นความร้อนสูง ฝรั่งเศสประกาศเตือนระดับสูงสุด อุณภูมิพุ่งเกิน 40 องศาเซลเซียส ขณะที่เยอรมนี-อังกฤษ ก็อุณหภูมิสูงถึง 30 องศาเซลเซียส
วันนี้ (13 ส.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลายชาติในยุโรป กำลังเผชิญกับไฟป่าที่ลุกลามอย่างหนัก และยังต้องเจอกับคลื่นความร้อนสูง ทำให้หลายพื้นที่มีอุณภูมิพุ่งเกิน 40 องศาเซลเซียส
โดยในเมืองบอร์โด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส วัดอุณหภูมิได้สูงถึง 41 องศาเซลเซียส ร้อนจัดจนชาวเมืองท้องถิ่นบ่นว่า "หายใจแทบไม่ออก" ท่ามกลางคลื่นความร้อนที่กำลังแผ่ปกคลุมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งทางการฝรั่งเศสออกประกาศเตือนคลื่นความร้อนระดับ "สีแดง" หรือระดับสูงสุด คาดว่าหลายพื้นที่ทั่วประเทศจะมีอุณภูมิพุ่งสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส
ส่วนที่กรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ในช่วงบ่ายวานนี้ ((12 ส.ค.)) มีอุณหภูมิสูงประมาณ 35 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนในท้องถิ่น รวมทั้งนักท่องเที่ยว พากันลงไปว่ายน้ำคลายร้อนในแม่น้ำแซน (Seine) ซึ่งกลับมาเปิดให้ประชาชนว่ายน้ำในแม่น้ำแซนได้เป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปี เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจุดว่ายน้ำที่ทางการกรุงปารีสจัดเตรียมไว้จะเปิดไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคมนี้
ขณะที่ประเทศเยอรมนี ประชาชนในหลายเมือง อาทิ แฟรงก์เฟิร์ต, โคโลญ และกรุงเบอร์ลิน มีอุณหภูมิที่สูงเกิน 30 องศาเซลเซียส ซึ่งสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเยอรมนีคาดว่าอุณหภูมิจะสูงต่อเนื่องไปอีกหลายวัน
ส่วยที่กรุงลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ อากาศร้อนกลับมาปกคลุมอีกครั้งในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 30 องศาเซลเซียส หลังจากในช่วงหลายหลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส ซึ่งสำนักงานอุตุนิยมอังกฤษคาดว่าสภาพอากาศจะยังคงร้อนตลอดทั้งสัปดาห์ โดยมีแดดเป็นช่วง ๆ และอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 30 องศาเซลเซียส