ชายอุกอาจใช้อาวุธปืนยิงกลางร้านอาหารชื่อดังเมืองนครนายก เจ็บสาหัส 2 คน

ชายอุกอาจใช้อาวุธปืนยิงกลางร้านอาหารชื่อดังเมืองนครนายก เจ็บสาหัส 2 คน

View icon 587
วันที่ 14 ส.ค. 2568 | 09.27 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชายกับเพื่อนนั่งดื่มกินที่ร้านอาหาร เผลอเดินไปชนชายคนหนึ่ง ขอโทษแล้ว แต่ไม่จบ ตามมาควักปืนยิง มีผู้บาดเจ็บ 2 คน 

วันนี้ (14 ส.ค. 68)  เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันบาดเจ็บ 2 คน ที่บริเวณลานจอดรถร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งใน ต.บ้านใหญ่ อ.เมือง จ.นครนายก   พ.ต.อ.ธีรพรรดิ์  บัณฑิโตหิรัญโชติ สืบสวน ภ.จว.นครนายก และ พ.ต.อ.สง่า ทางธรรม ผกก.สภ.เมืองนครนายก นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิด พบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 คน คือ นายสมยศ อายุ 48 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณอกข้างขวา 1 นัด และเฉี่ยวบริเวณท้อง 1 นัด  และนายชัยลักษณ์ อายุ 41 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณไหล่ข้างซ้าย ทั้งคู่ถูกนำตัวส่ง รพ.นครนายก เพื่อทำการรักษาต่อไป

ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน ซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 6 ปลอก  ไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ

ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายทองพิทักษ์ อายุ 38 ปี เพื่อนของคนเจ็บ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนกับกลุ่มเพื่อนมากันประมาณ 10 คน นั่งดื่มกันอยู่ภายในร้าน ซึ่งผู้ก่อเหตุได้นั่งโต๊ะติดกัน มาประมาณ 5-6 คน ซึ่งตนได้เดินไปชนผู้ก่อเหตุ แต่ได้ขอโทษไปแล้ว เพราะไม่ได้ตั้งใจ และตนก็เดินออกมาด้านหน้าร้าน

จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้เดินตามตนออกมา ตนจึงได้บอกกล้บไปอีกครั้งว่า พี่ไม่มีอะไรกันนะ ผมไม่มีอะไรนะ ไม่ติดใจกันนะ จากนั้นคนก่อเหตุก็ได้ควักปืนจ่อยิงตนถึง 2 นัด แต่ตนนั้นวิ่งหลบทัน เมื่อกลุ่มเพื่อนตนเห็นเหตุการณ์ จึงได้วิ่งตามออกมา จากนั้นคนก่อเหตุก็ได้หันไปยิงใส่เพื่อนตน จนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 คน แล้วคนก่อเหตุก็ได้วิ่งหลบหนีไป

จากการสืบสวนและสอบปากคำพยานแวดล้อม ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายพิชิต อายุ 34 ปี วันเกิดเหตุ เพิ่งเดินทางกลับมาจาก รังสิต จึงยังไม่ได้กลับเข้าบ้าน และได้มาเปิดห้องพักอยู่ใกล้ๆ กับร้านอาหารที่เกิดเหตุ และได้ออกมาเที่ยวก่อนจะก่อเหตุอย่างอุกอาจ เนื่องจากภายในร้านมีคนอยู่จำนวนมาก

โดยหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีกลับไปยังห้องพัก ก่อนติดต่อขอเข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองนครนายก ในเวลาต่อมาเพียง 2 ชม. หลังเกิดเหตุ

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ปิดล้อมสถานที่เกิดเหตุเพื่อทำการสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมทั้งตรวจสอบอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุและตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง