ผวจ.โคราช เผย ออกหมายจับผู้ค้ายา 23 ราย ไล่ออก ปกครอง-ท้องถิ่น 18 ราย เกี่ยวข้องยาเสพติด

ผวจ.โคราช เผย ออกหมายจับผู้ค้ายา 23 ราย ไล่ออก ปกครอง-ท้องถิ่น 18 ราย เกี่ยวข้องยาเสพติด

View icon 1.6K
วันที่ 14 ส.ค. 2568 | 17.06 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กวาดล้างหนัก ผวจ.โคราช เผยออกหมายจับผู้ค้ายา 23 ราย ไล่ออก ปกครอง-ท้องถิ่น 18 ราย เกี่ยวข้องยาเสพติด ส่งบำบัดอีกว่า 8 พันราย ด้าน ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา ไม่ละเว้น ไล่ตำรวจออก 2 รายพัวพันยาเสพติด

วันนี้ (14 ส.ค.68) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นครราชสีมา พร้อม พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา, นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครรราชสีมา และผู้แทนหน่วยงานความมั่นคงร่วมแถลงแผนปฏิบัติการลงพื้นที่กวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ 32 อำเภอ ภารกิจ “No Drups No Dealer” ไม่มียา ไม่เหลือที่ในโคราช ซึ่งเป็นการดำเนินตามแผนงานรับแจ้งเบาะแสผู้ค้าในพื้นที่ 395 ราย โดยได้รวบรวบพยานหลักฐานพร้อมระดมกำลังปิดล้อมตรวจค้นขยายผลและจับกุมพร้อมกันระหว่างวันที่ 12-13 ส.ค. ใน 13 อำเภอพื้นที่เป้าหมาย คือ อ.เมือง อ.สีคิ้ว อ.ปักธงชัย อ.บัวใหญ่ อ.พิมาย อ.ด่านขุนทด อ.บ้านเหลื่อม อ.ประทาย อ.แก้งสนามนาง อ.โนนแดง อ.เมืองยาง อ.บัวลาย อ.สีดา และ อ.ชุมพวง

พบบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้อง โดยมีกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 7 ราย, สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) 2 ราย, เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 9 ราย รวม 18 ราย เบื้องต้นมีคำสั่งให้ออกทันที โดยไม่มีการละเว้นแต่อย่างใด รวมทั้งผู้เสพ 8,376 ราย

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้สนับสนุนชุดตรวจสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะจำนวน 2 หมื่นชุด และยาเค 2 พันชุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดในท้องถิ่น และขอบคุณพลเมืองดีที่อยู่ในหมู่บ้าน ชุมชนได้ให้ความร่วมมือแจ้งเบาะแสจนสามารถขยายผลจับกุมผู้ค้า 740 ราย มีผู้ต้องสงสัย 23 ราย โดยมี 13 ราย อยู่ในพื้นที่ อ.ด่านขุนทด ทั้งหมดได้หลบหนีอยู่ระหว่างออกหมายจับและติดตามจับกุม ส่วนผู้เสพกว่า 8 พันราย ได้เข้าสู่กระบวนการบำบัดเรียบร้อยแล้ว จากนั้นมีการฟื้นฟูอาชีพและหางานให้ทำเพื่อคืนคนที่มีคุณภาพกลับสู่สังคม  นอกจากนี้ มีผู้ป่วยจิตเวช 370 ราย ต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง ให้กินยารักษาบำบัดและหลีกเลี่ยงสารเสพติด โดยใช้ระบบหนึ่งต่อหนึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐติดตาม เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวอยู่ในสังคมได้ และรักษาความสงบสุขในสังคม

ด้าน พล.ต.ต.ไพโรจน์ เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เที่ยงตรงแม่นยำ สามารถเข้าดำเนินการผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ได้ถึง 80% ส่วนที่เหลือกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะออกหมายจับต่อไป ทั้งนี้ ฝากถึงประชาชนที่ยังเคลือบแคลงว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้อง ขอเรียนให้ทราบว่าในช่วงปีที่ผ่านมามีการไล่ข้าราชการตำรวจออกจากราชการ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 2 รายแล้ว หากพบข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะดำเนินการโดยไม่ละเว้น พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน ปปส.1386 และสายด่วน 191โดยที่ไม่ต้องบอกว่าเป็นใครเป็นผู้แจ้ง