จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Theerasak Saksritawee" โพสต์ภาพ "มังกรทะเลสีน้ำเงิน" พร้อมระบุข้อความว่า "‼️ BLUE DRAGON ตัวใหม่ ใหญ่กว่าเดิม‼️ มังกรทะเลสีน้ำเงิน หรือ ทากจิ้งจก สกุล Glaucus หาดกะรน จังหวัดภูเก็ต วันที่ 13 สิงหาคม 2568


วันที่ 13 สิงหาคม ได้มีกลุ่มเด็กเลหน้าหาดกะรน น้อง ขวัญชัย กักกอ กับ น้อง ณัฐวุฒิ ชูคง และ เพื่อน ๆ พบเจอมังกรทะเลสีน้ำเงินที่มีขนาดใหญ่และยาวกว่าปกติ มีเส้นลายแถบจากหัวถึงปลายหาง ซึ่งมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดกับที่เจอก่อนหน้านี้ นั่นก็คือ สกุล Glaucilla sp. ที่ตัวจะเล็กเพียง 5-6 มม. แต่ตัวใหม่นี้ จะวัดได้ยาวถึง 1.5 ซม. อาจเป็นไปได้ว่า จะเป็นมังกรทะเลสีน้ำเงินในสกุล Glaucus sp. แน่นอนว่าพิษอันตรายเหมือนเดิม ถึงแม้จะยังไม่มีรายงานจากนักท่องเที่ยวที่โดนพิษ เนื่องจากมีจำนวนที่น้อย แต่ก็ควรระวังเอาไว้ครับ"


ล่าสุด เพจ "กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง" โพสต์ภาพเปรียบเทียบทั้ง 2 สกุล พร้อมระบุข้อความว่า "ได้รับแจ้งจากเครือข่ายและเจ้าหน้าที่ Lifeguard ว่าพบ มังกรทะเลสีน้ำเงิน (Blue dragon) เกยตื้นบริเวณชายหาดกะรน จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 12–13 สิงหาคม 2568

ผลการตรวจสอบพบมังกรทะเลสีน้ำเงิน 2 สกุล คือ Glaucilla sp. ขนาด ~ 0.5 ซม. และ Glaucus sp. ขนาด 0.7–2 ซม. ทั้ง 2 สกุลมีลักษณะต่างกันที่ขนาดและการจัดเรียงแขนง (cerata) แต่มีพิษ จากการสะสมสารพิษของเหยื่อ เช่น แมงกะพรุน อาจทำให้ปวดแสบ ปวดร้อน ระคายผิว หรือเกิดผื่นแดง

นอกจากนี้ยังพบแมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์ แมงกะพรุนกะลาสี และแมงกะพรุนหัวขวดในพื้นที่ จึงขอเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชายหาดฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ต ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ทะเลเหล่านี้ และหากได้รับพิษ ให้รีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นและพบแพทย์ทันที"