สุดสกปรก บุกคลินิกเถื่อนปทุมธานี รวบ 2 หมอเถื่อน รับศัลยกรรมทำสวย-เพิ่มขนาดเจ้าโลก

สุดสกปรก บุกคลินิกเถื่อนปทุมธานี รวบ 2 หมอเถื่อน รับศัลยกรรมทำสวย-เพิ่มขนาดเจ้าโลก

View icon 377
วันที่ 15 ส.ค. 2568 | 13.12 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจ ปคบ. ร่วมกับ สสจ.ปทุมธานี บุกคลินิกเถื่อน รวบ 2 หมอเถื่อน รับศัลยกรรมทำสวย-เพิ่มขนาดเจ้าโลก อึ้ง! สถานที่สุดสกปรกเสี่ยงอันตราย

วันนี้ (15 ส.ค.68) พล.ต.ต. พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ. สั่งการ พ.ต.อ.วีระพงษ์  คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ร่วมด้วย นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ นพ.นนท์ จินดาเวช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ปฏิบัติการตรวจค้นสถานพยาบาลรับทำศัลยกรรมอวัยวะเพศเถื่อน และแพทย์เถื่อน ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จำนวน 2 จุด จับกุมหมอเถื่อน 2 ราย

พฤติการณ์สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานีได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ให้ตรวจสอบคลินิกศัลยกรรมที่เปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้ตรวจรักษาเป็นบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ โดยคลินิกแห่งหนึ่งมีการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ สื่อให้ประชาชนเข้าใจว่ามีแพทย์ผู้ความเชี่ยวชาญในการฉีดเพื่อเพิ่มขนาดและขลิบอวัยวะเพศชาย

หลังได้รับร้องเรียนจึงสืบสวนพบว่า มีสถานพยาบาลในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เปิดทำการรักษาโดยใช้บุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ตรวจรักษาให้ประชาชนทั่วไปจริง จึงเป็นการนำมาสู่การระดมกวาดล้างหมอเถื่อน และสถานพยาบาลเถื่อนในครั้งนี้ โดยเมื่อวันที่ 13 ส.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก. ปคบ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (สบส.) และเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี (สสจ.) ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดธัญบุรีเข้าตรวจสอบคลินิกในพื้นที่ จ.ปทุมธานี 2 แห่ง ได้แก่ คลิกนิกตั้งอยู่บริเวณถนนรังสิตนครนายก ซึ่งโฆษณาเปิดรับศัลยกรรมความงาม ยกคิ้ว ตัดถุงใต้ตา รับฉีดเพิ่มขนาดและขลิบอวัยวะเพศชาย ซึ่งสถานพยาบาลดังกล่าวเปิดดำเนินการมีสาขาทั่วประเทศหลายสาขา ขณะเข้าตรวจค้น พบนายเคนโซ อายุ 28 ปี กำลังทำหัตถการให้กับผู้มารับบริการ

จากการตรวจสอบสถานพยาบาลดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล อีกทั้งภายในคลินิกที่ตรวจรักษามีสภาพไม่ถูกสุขอนามัยเป็นอย่างมาก โดยวางอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งที่ใช้แล้ว และยังไม่ใช้รวมกันบนพื้นและในห้องครัว นอกจากนี้ ยังได้นำหลอดฉีดยาที่เจาะเลือดผู้ป่วยแล้ววางรวมอยู่ในตู้เก็บของ โดยไม่มีการแยกขยะติดเชื้อแต่อย่างใด รวมถึงนำขยะที่อาจติดเชื้อทิ้งไว้รวมกับขยะหรืออุปกรณ์การแพทย์อื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกันจับกุม นายเคนโซ พร้อมตรวจยึดของกลาง เป็นยาแผนปัจจุบัน เครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ในการรักษา 30 รายการ รวม 625 ชิ้น นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดี

สอบถาม นายเคนโซ ยอมรับว่า ตนจบหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล มาทำงานที่นี่ได้ประมาณ 3-4 เดือน รับเงินเดือนเดือนละ 27,000 บาท โดยคลินิกนี้มีแพทย์เข้ามาทำหัตถการเป็นบางวันและตนก็จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ที่มารักษา วันใดที่มีประชาชนมาใช้บริการโดยไม่มีนายแพทย์ ก็จะทำหัตถการด้วยตนเอง ทั้งนี้ ตรวจสอบในเบื้องต้นพบแพทย์ที่โฆษณาเป็นบุคคลเดียวกัน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้สอบสวนขยายผลดำเนินคดีต่อไป

ส่วนคลินิกศัลยกรรมแห่งที่สอง บริเวณถนนรังสิตนครนายก เปิดให้บริการฉีดฟิลเลอร์ โบท๊อกซ์ เลเซอร์ ร้อยไหม และศัลยกรรมอื่น ขณะตรวจค้นพบ น.ส.อริยา อายุ 37 ปี กำลังทำหัตการฉีดวิตามินให้กับผู้มารับบริการ โดยจากการตรวจสอบพบว่า สถานพยาบาลได้รับอนุญาตถูกต้อง แต่ไม่มีแพทย์อยู่ประจำ สอบถาม น.ส.อริยา ยอมรับว่า จบการศึกษาระดับ ปวช. และไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด โดยทำงานมาประมาณ 1 ปี รายได้เดือนละ 15,500 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัว น.ส.อริยา พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นยาแผนปัจจุบัน และยาไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา รวม 13 รายการ จำนวน 175 ขวด ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดี

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา

นพ.นนท์ จินดาเวช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลจะต้องจัดให้มีแพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลอยู่ประจำสถานพยาบาลตลอดเวลาทำการ เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการ หากมีการนำชื่อแพทย์มาแขวนป้ายโดยไม่จัดให้มีแพทย์ผู้ดำเนินการฯ ประจำอยู่จริงนั้นจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ซึ่งมีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ

ส่วนแพทย์ที่ยินยอมให้สถานพยาบาลนำชื่อมาแขวนป้ายก็จะมีการดำเนินคดีด้านจริยธรรมทางการแพทย์ จากแพทยสภา ซึ่งอาจจะรุนแรงถึงขั้นระงับใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำให้แพทย์ผู้ดำเนินการฯ ทุกรายปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง และขอเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ, หมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที หากตรวจเจอจะดำเนินคดีทันที และขอประชาสัมพันธ์กับประชาชนหากพบสถานพยาบาลหรือแพทย์ที่ต้องสงสัยว่าอาจอยู่ลักษณะหมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหรือสายด่วนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 1426