วันนี้ (16 ส.ค. 68) เมื่อเวลา 01.30 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ฐาปนพงษ์ พึ่งมี สว.จร.สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคันบนทางด่วนอุดรรัถยา ฝั่งขาออก มุ่งหน้าบางประอิน ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เข้าตรวจสอบให้ความช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุอยู่บนทางด่วนบริเวณเหนือเมืองทองธานี เป็นถนน 2 ช่องจราจร พบรถยนต์จำนวนหลายคันถูกชนได้รับความเสียหายยับเยิน ชิ้นส่วนของตัวรถกระจัดกระจายเกลื่อนเต็มพื้นทั้ง 2 ช่องจราจร และยังพบคราบน้ำมันรั่วจากรถที่เฉี่ยวชนกันเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษฯ ได้ประสานรถยกจำนวนหลายคันเร่งเคลื่อนย้ายรถที่เสียหายออกจากผิวจราจร พร้อมทั้งใช้ทรายและสารเคมีขจัดคราบน้ำมัน พร้อมทำความสะอาดเศษรถที่แตกออกจากผิวจราจร โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดประมาณ 10 คัน ประกอบด้วย 1.รถยนต์เก๋ง บีเอ็มดับบลิว สีขาว ทะเบียน ฉษ 80 กรุงเทพมหานคร ท้ายและด้านหน้ายุบ 2.รถยนต์เก๋ง สีขาว ทะเบียน 5ขก 4947 กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าและท้ายแตก 3.รถยนต์เก๋งบีเอ็มดับบลิว สีเทา ทะเบียน ธล 757 กรุงเทพมหานคร ท้ายยุบ กันชนท้ายหลุด 4.รถยนต์เก๋ง สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ด้านหน้าแตก กระจกหน้าแตก ด้านข้างขวายุบ ท้ายยุบ 5.รถยนต์เก๋งสปอร์ต สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ด้านหน้าเละ ล้อหน้าซ้ายหลุด 6.รถตู้หรู สีดำ ทะเบียน 7กง 7878 กรุงเทพมหานคร ด้านหน้ายุบ 7.รถยนต์เก๋ง สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ท้ายยุบ กันชนหน้าหลุด 8.รถยนต์เก๋ง สีขาว ทะเบียน 1ขฮ 4226 กรุงเทพมหานคร กันชนท้ายหลุด หน้ารถด้านซ้ายมีรอยถลอก ส่วนอีก 2 คัน รถยกได้นำลงไปก่อนหน้าแล้ว
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งในที่เกิดเหตุ ซึ่งสามารถบันทึกเหตุการณ์ได้เวลา 00.59 น. เป็นช่วงโค้งเมืองทองธานี โดยถนนช่วงนี้บีบช่องจราจรลงจาก 3 ช่อง เหลือ 2 ช่อง พบรถยนต์เก๋งสีขาว จำนวน 3 คัน ขับแข่งกันมาด้วยความเร็ว มี 1 คัน ขับเลนขวา และอีก 2 คันตามกันมาเลนซ้าย ขณะเดียวกันที่ด้านหน้าสุดมีรถยนต์เก๋งบีเอ็มดับบลิว สีเทา ขับอยู่ในช่องจราจรด้านขวา ได้พยายามหลบ กำลังจะเปลี่ยนเลนไปทางซ้าย จึงถูกรถยนต์สีขาวในเลนขวาชนท้ายอย่างแรง จนทำให้รถเสียหลักไปขวางอยู่ในเลนซ้าย จึงถูกชนซ้ำ ก่อนทำให้รถคันหลังที่ตามท้ายกันพุ่งชนกันจนได้รับความ้สียหายอีกหลายคัน
สอบถาม นายอชิตพล อายุ 29 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์บีเอ็มดับบลิว สีเทา ที่ถูกชน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนขับรถมาในเลนขวา ส่วนรถคันที่ขับตามมาขับด้วนความเร็ว เหมือนจะชนตน เพราะระยะห่างนิดเดียว ตนจึงพยายามจะหลบไปทางซ้ายแต่ถูกชนท้ายก่อน ซึ่งขณะนั้นตนยังไม่ได้เปลี่ยนเลน ทำให้รถตนกระเด็นไปเลนซ้าย ก่อนที่รถอีกคันที่ขับมาเลนซ้ายชนตนอีกที ซึ่งรถที่ชนทั้งหมดเป็นรถแต่งซิ่งไม่ติดป้ายทะเบียน หลังชนเสร็จได้ขับหนีไป ถ้าจำไม่ผิดเป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ ตนขับมากับแฟนสาว ทำให้แฟนตนบาดเจ็บศีรษะกระแทก รู้สึกปวดศีรษะ ตอนนี้กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ขับขี่รถยนต์ทั่ง 10 คัน เพื่อหาสาเหตุการชนกันในครั้ง และรอตรวจสอบกล้องวงจรปิด หากพบการกระทำผิดว่ามีการแข่งขันรถบนทางด่วนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งมีโทษถึงขั้นถูกศาลสั่งยึดรถ
