ไปกันต่อ เพื่อไทย ขอบคุณพรรคร่วมฯ ช่วยผ่านงบฯ 69 ยันทุกบาทใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส เชื่อ เชื่อ สว. เร่งพิจารณา เปิดทางใช้งบขับเคลื่อนนโยบาย
วันนี้ (17 ส.ค.68) น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และรองโฆษกพรรค กล่าวว่า ตนขอขอบคุณ สส.จากพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคที่ร่วมกันผลักดันให้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ผ่านความเห็นชอบในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 เพราะทุกพรรครับรู้ร่วมกันว่าร่างกฎหมายนี้คือหัวใจในการขับเคลื่อนนโยบายที่รัฐบาลได้ให้คำมั่นไว้กับประชาชน โดยข้อเสนอแนะข้อสังเกตของ สส. เป็นเรื่องมีประโยชน์ ยืนยันว่างบประมาณฯ ปี 2569 ไม่ใช่ตัวเลขที่อยู่ในเอกสาร หรือตัวเลขลอยอยู่ในอากาศ แต่เป็นงบประมาณในการวางรากฐานของประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาปากท้อง
“พรรคเพื่อไทยยืนยันมุ่งมั่นใช้งบประมาณทุกบาททุกสตางค์อย่างมีประสิทธิภาพโปร่งใส และตอบโจทย์ชีวิตของประชาชน โดยหลังจากที่ร่างกฎหมายผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ขั้นตอนต่อไปพิจารณาชั้นวุฒิสภา เชื่อมั่นว่าวุฒิสภาจะเร่งในการพิจารณาเพื่อเปิดทางให้รัฐบาลนำงบไปใช้จ่ายขับเคลื่อนนโยบายอย่างเร็วที่สุด” น.ส.ขัตติยา กล่าว
โดยโครงการที่จะใช้งบประมาณในปี 2569 คือ โครงการรถไฟรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพื่อทำให้การเดินทางสะดวกรวดเร็ว และเป็นการลดรายจ่ายของประชาชน และจะนำไปใช้ในโครงการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจชุมชน ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 2.8 ล้านล้านบาท จะดึงนักท่องเที่ยว 36 ล้านคน สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น ผู้ประกอบการ SME และภาคบริการ
นอกจากนี้ จะนำงบประมาณไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณสุข เพื่อรองรับสังคมสูงวัยและสิทธิประโยชน์ใหม่ และนำไปสร้างระบบดูแลสุขภาพของคนไทย จะนำไปจัดการภัยพิบัติและเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้ท้องถิ่นมีความพร้อมในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม เช่น โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวปี 2568-2569 จ่ายเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 สูงสุด 10 ไร่ครอบคลุมทั้งนาปีและนาปรัง เริ่มในเดือน ก.ย.นี้ เงินจะโอนเข้าบัญชีเกษตรกรที่ขึ้นบัญชีไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร
และรัฐบาลได้ร่วมกับสมาคมลำไยอบแห้งตั้งจุดรับซื้อลำไยเกรด AA ที่กิโลกรัมละ 13 บาทจนถึงวันที่ 20 ส.ค. พร้อมเสนอให้คณะรัฐมนตรีออกมาตรการช่วยเหลือส่งเสริม จะจ่ายรายละ 1,400 บาททดแทนรายได้ และทั้งสองมาตรการนี้มีเป้าหมายให้รายได้ถึงมือเกษตรกรอย่างเร็วที่สุด พรรคเพื่อไทยได้กำชับ สส.ให้ติดตามสถานการณ์จุดรับซื้อและปริมาณการรับซื้อเพื่อนำปัญหาไปสะท้อนกับรัฐบาล เพื่อนำไปแก้ไขให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด