รถหรูโบราณ วัดไผ่ล้อม หายไปจริงหรือ ?

View icon 161
วันที่ 18 ส.ค. 2568 | 11.06 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - เรื่องรถหรูที่อยู่ในการดูแลของวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม เคยเป็นข่าวดังเมื่อช่วงปี 2559 ว่าอาจนำเข้ามาอย่างไม่ถูกต้อง ผ่านมากว่า 10 ปี เรื่องเงียบหายไปนาน กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้งหลังมีข่าวว่า รถที่จอดอยู่นั้น หายไป

เรื่องนี้ถูกโพสต์ในเพจฯ "ท่านเปา" ข้อความถูกถามสั้น ๆ ว่า "วัดไผ่ล้อม นครปฐม ขนรถโบราณออกไปไหนเอ่ย" พร้อมกับคอมเมนต์ว่า "โค้ดลับ : คนนครปฐมรู้ดี" ก่อนจะถามอีกว่า "เอาไปซ่อมเหรอ"

ตามด้วยเพจฯ "ที่นี่นครปฐม" โพสต์สั้น ๆ "ขยับรถทีสะเทือนถึงดวงดาว" และโควตธรรมเตือนสติของ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ "หลวงพี่น้ำฝน" รักษาการแทนเจ้าอาวาส วัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม ว่า รู้ไม่จริงอย่ากล่าวไป เพราะถ้อยคำที่เกินจริง คือ ดาบคมที่ทำร้ายผู้อื่น "สำรวมปากคือการรักษาใจ ไม่พูดร้ายคือการรักษาธรรม" แต่หลาย ๆ คอมเมนต์ที่ออกมา พูดทำนองเดียวกัน ว่าอยากเห็นสำนักพุทธฯ ตรวจสอบ อยากให้เอาจริงกับทุกปัญหา

ลงพื้นที่ไปที่ "วัดไผ่ล้อม" ไม่เจอ "หลวงพี่น้ำฝน" เพราะมีกิจนิมนต์ไปมอบเตียงให้ผู้ป่วยติดเตียงที่จังหวัดราชบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี ส่วนรถโบราณที่มีข่าวนั้น สรุปยังอยู่ครบทุกคัน ไม่ได้หายไปไหน สอบถามเจ้าหน้าที่วัด บอกว่า ช่วงเย็นเมื่อวานมีการตรวจสภาพ และเช็คระบบรถ จึงเคลื่อนย้ายไปไว้ที่ศูนย์ไตเทียม ซึ่งก็อยู่ภายในวัดนี่แหละ แล้วที่บอกว่ามีการขนกล่องเงินบริจาคออกไป ก็ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงเช่นกัน แค่เอาไปทำความสะอาด เอาขยะไปทิ้ง อีกทั้งตรวจสอบไปทางตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม แล้ว ก็ยืนยันข้อมูลตรงกันว่า เรื่องการเคลื่อนย้ายรถ ทำแค่ประมาณ 40 นาที เท่านั้นไม่มีอะไรผิดปกติ

ส่วนที่ว่าทำไมมีคนจับจ้อง "หลวงพี่น้ำฝน" เยอะ ก็เพราะในอดีตเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่อง ทั้งความขัดแย้งกับชาวบ้านในพื้นที่ การใช้ถ้อยคำที่อาจดูรุนแรงไปบ้าง รวมถึงบทบาทการทำหน้าที่ตำรวจพระ ที่เกิดข้อถกเถียงเรื่องอำนาจหน้าที่

ส่วนเรื่องกรณีที่ DSI เคยมีประเด็นตรวจสอบเรื่องรถหรู สอบถามล่าสุดกับ "หลวงพี่น้ำฝน" ก็ยืนยันว่าได้รับหนังสือตอบกลับจาก DSI ว่าเรื่องนี้จบแล้ว พบว่าการนำเข้ารถนั้นถูกต้อง

จากสารพัดปัญหาเรื่องเงินทำบุญ กับใบอนุโมทนาบัตร ที่เกิดปัญหาว่าออกไม่ตรง ไม่ใช่โครงการที่ชาวบ้านตั้งใจจะไปทำบุญ ก็เลยเกิดแนวทางการแก้ปัญหานี้ขึ้นมาว่า 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป ใครต้องการบริจาค เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ต้องบริจาคผ่านระบบอิเล็กทรอนิคส์ ที่เชื่อมต่อกับระบบ e-Donation ของกรมสรรพากรเท่านั้น แปลว่า ใบอนุโมทนาบัตร จะเอามาใช้ลดหย่อนภาษีอีกไม่ได้แล้ว

ซึ่งก็จะมีข้อดีด้วยตรงที่ คนที่บริจาคผ่านระบบ ไม่ต้องเก็บใบอนุโมทนาบัตรให้ยุ่งยาก เพราะข้อมูลจะเข้าระบบมาโดยอัตโนมัติเลย และตอนนี้ อธิบดีกรมสรรพากร ก็ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด ไปถึงผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้แจ้งไปยังวัดที่ยังไม่ได้ใช้ระบบนี้ ไปลงทะเบียน กับสรรพากรพื้นที่ และธนาคาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับญาติโยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง