หมอสุรัตน์ เตือน Smoothie ดีต่อสุขภาพ? หรือ น้ำตาลพุ่งไม่รู้ตัว? กันแน่

หมอสุรัตน์ เตือน Smoothie ดีต่อสุขภาพ? หรือ น้ำตาลพุ่งไม่รู้ตัว? กันแน่

View icon 199
วันที่ 18 ส.ค. 2568 | 18.33 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (18 ส.ค. 68) ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาท เปิดเผยผ่านเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์” เตือน "Smoothie" ดีต่อสุขภาพ? หรือ น้ำตาลพุ่งไม่รู้ตัว? กันแน่

น่าสนใจดี กิน smoothe ผลไม้ ปั่นๆ  ทำให้น้ำตาลในกระแสเลือด ถึง peak กว่า กินเป็นลูก เพราะว่า น้ำตาลมันถูกดูดซึมง่าย อาจ ไม่ได้ ดีเท่าที่คิดนะ สมูทตี้ผลไม้ = ดีต่อสุขภาพ? หรือ น้ำตาลพุ่งไม่รู้ตัว? กันแน่

หลายคนคิดว่า “ดื่มสมูทตี้ทุกเช้า = สุขภาพดี” แต่ความจริงแล้ว... ถ้าปั่นผลไม้เยอะ ๆ โดยไม่มีโปรตีน ไขมัน หรือไฟเบอร์เพิ่มเลย

มันอาจทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งเร็วมากบางคนที่คิดว่าดื่มอะไรเฮลที กลับเจอว่าน้ำตาลแตะระดับเบาหวานโดยไม่รู้ตัว ลองดู ตัว graph ที่มา แปะให้ ก็จะเห็นว่า การกิน smoothe นั้น น้ำตาลพุ่งเร็วถึง peak ตามเส้นประ สีแดง

ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?

เวลาเรากิน “ผลไม้ทั้งลูก” ไฟเบอร์ในผลไม้จะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล แต่พอปั่นละเอียด ไฟเบอร์ถูกทำลาย น้ำตาลซึมเข้าร่างกายเร็วมาก
อินซูลินก็ต้องรีบออกมาจัดการทันที — พุ่งไว ตกไว เหนื่อยอีกต่างหาก

แล้วต้องเลิกดื่มสมูทตี้ไหม?

ไม่ต้องเลิกครับ แต่เราต้อง รู้วิธีผสมให้สมดุล ไม่อย่างนั้น สมูทตี้ก็ไม่ต่างจาก “น้ำผลไม้หวาน ๆ” ดี ๆ นี่เอง

สูตรสมูทตี้ไม่พาน้ำตาลพุ่ง (สูตรหมอแนะนำ):
✅ ผลไม้ GI ต่ำ เช่น เบอร์รี่ 1 ถ้วย
✅ โปรตีน เช่น กรีกโยเกิร์ต หรือเวย์โปรตีน 1 สกู๊ป
✅ ไขมันดี เช่น อะโวคาโด หรือเนยถั่ว 1 ช้อน
✅ ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักเคล
❌ ไม่ใส่น้ำผลไม้ หรือโยเกิร์ตที่เติมน้ำตาล

โดยหมอสุรัตน์ ได้สรุปไว้สั้น ๆ ว่า สมูทตี้ ดีได้ ถ้าทำให้ถูก แต่ถ้าปั่นแต่ผลไม้ ไม่เติมอะไรเลย มันก็เหมือน “ขนมหวานแอบแฝง” ดี ๆ นี่เอง กินแล้วเหนื่อย เพลีย หิวไว น้ำตาลเหวี่ยงทั้งวัน เลือกดี ๆ แล้วร่างกายจะขอบคุณคุณครับ

GI หรือ Glycemic Index (ดัชนีน้ำตาล) คือ ค่าที่บอกว่าอาหารชนิดนั้นทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งเร็วแค่ไหน หลังจากเรากินเข้าไป

อธิบายง่าย ๆ :

อาหารที่มี GI สูง → น้ำตาลพุ่งเร็ว → อินซูลินออกเยอะ → หิวเร็ว เหนื่อยง่าย
อาหารที่มี GI ต่ำ → น้ำตาลขึ้นช้า → อยู่ท้องนาน → ดีต่อสุขภาพระยะยาว

| ระดับ    | ค่า GI          | ตัวอย่างอาหาร                       |
| -------- | --------------- | ----------------------------------- |
| **ต่ำ**  | 55 หรือน้อยกว่า | เบอร์รี่ ผักใบเขียว ถั่ว ข้าวกล้อง  |
| **กลาง** | 56–69           | ข้าวโพด มะม่วง ข้าวโอ๊ต             |
| **สูง**  | 70 ขึ้นไป       | ขนมปังขาว น้ำผลไม้ ข้าวขาว มันฝรั่ง |

ทำไม GI ถึงสำคัญ?
เพราะถ้าเรากินอาหารที่ทำให้น้ำตาลพุ่งเร็ว (GI สูง) บ่อย ๆจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน อ้วนลงพุง และพลังงานเหวี่ยงทั้งวัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง