ห้องข่าวภาคเที่ยง - มาที่เรื่องปากท้อง ตอนนี้พืชผลทางการเกษตร และเนื้อหมูหน้าฟาร์ม ราคาตกฮวบ เกษตรกรเดือดร้อนหนัก วอนรัฐบาลช่วยเหลือ ต้องรวมตัวประท้วงปิดถนนเมื่อวานนี้
รอผลเจรจาช่วยเหลือ ข้าวโพดราคาตกต่ำ
ชาวไร่ข้าวโพดจากหลายพื้นที่ นัดรวมตัวกันที่บริเวณ 4 แยกราหุล อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามารับประกันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ตอนนี้ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5 บาท ต่อกิโลกรัม อันเป็นผลกระทบจากนโยบายการนำเข้าข้าวโพดตัดแต่งพันธุกรรม หรือ GMO จากสหรัฐอเมริกา และทำให้โรงงานอาหารสัตว์จำกัดการรับซื้อข้าวโพดของไทย จึงทำให้เกษตรกรไปต่อไม่ได้
โดยเวลา 13.30 น. หนังสือเรียกร้องจากกลุ่มเกษตรกร ที่นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วย สส.ในพื้นที่ ลงไปพูดคุยเมื่อวาน จะส่งถึงมือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยจะมีการหารือกับตัวแทนชาวไร่ข้าวโพด ตามข้อเรียกร้อง ต้องรอดูว่าผลสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเกษตรกรต้องการราคา 7 บาท 50 สตางค์ รัฐบาลต้องให้คำตอบภายในวันที่ 22 สิงหาคม 2568
วอนรัฐช่วย หมูหน้าฟาร์มราคาตกต่ำ
เช่นเดียวกับเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู บ้านหนองลาด ตำบลหนองลาด อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร กำลังประสบปัญหาราคาหมูตกต่ำ ไม่แพ้กัน ตอนนี้ราคาเฉลี่ยหมูมีชีวิตหน้าฟาร์ม อยู่ที่ 58 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 50-55 บาทต่อกิโลกรัม เกือบเท่าราคาขายต่อกิโลกรัมแล้ว ส่งผลให้ต้องขาดทุนโดยเฉลี่ยตัวละประมาณ 800-900 บาท หลายรายขาดเงินทุนหมุนเวียนในการบริหารจัดการฟาร์ม ทั้งต้นทุนวัตถุดิบและค่าอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้เลี้ยงหมูรายเล็ก ต้องหยุดเลี้ยงไปต่อไม่ได้ เพราะแบกภาระต้นทุนไม่ไหว
สาเหตุอีกส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการปะทะสู้รบชายแดนอีสานใต้ ทำให้หลายฟาร์มเทขายหมูออกจากฟาร์ม เพื่อลดความเสี่ยงขาดทุน
