ตำรวจช่วยได้ทัน แม่ทารกทำร้ายลูกแรกคลอดตาย เครียดหนัก หวังจบชีวิตตัวเองในห้องขังหนีความผิด สุดท้ายจูงมือผัวเข้ารับกรรมในคุก
วันนี้ ( 21 ส.ค.68 ) ความคืบหน้า หลังตำรวจสืบสวน สภ.บ้านฝาง ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น จับกุม สามีภรรยา ร่วมกันเผาอำพรางศพลูกในไส้วัยแรกคลอด ที่ทำการคลอดเองในห้องเช่ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนช่วยกันห่อร่างทารกใส่ถุงดำ นำไปเผาอำพรางที่เตาเผาถ่าน ซึ่งภรรยาถูกเค้นสอบจนยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ใช้ผ้าห่มปิดหน้าลูกจนขาดอากาศหายใจ
ตำรวจคุมตัวสามี ภรรยา ไว้ที่ สภ.บ้านฝาง ซึ่งอยู่อาการเครียด จึงต้องจัดเวรยามดูแลตลอดทั้งคืน กระทั่งช่วงเช้ามืด สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติในห้องขังหญิง จึงรีบเข้าไปดู พบว่าแม่ทารกพยายามฉีกปอกหมเป็นเส้น เพื่อใช้ทำร้ายตัวเองหนีความผิด เจ้าหน้าที่จึงเก็บของทุกอย่างออกจากห้องขังเพื่อความปลอดภัย
พ.ต.อ.กรภพ เนตรไธสง ผกก.สภ.บ้านฝาง เปิดเผยว่า หลังจากตำรวจสอบปากคำเมื่อวาน นางสาวปนัดดา เกิดความเครียดหน้าซีดจะเป็นลม คาดว่าเกิดจากที่เสียเลือดมากจากการคลอดลูกเอง จึงนำส่งโรงพยาบาลบ้านฝาง ทำให้ไม่สามารถมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพร่วมกันได้ หลังจากอาการดีขึ้นได้นำกลับมาเค้นสอบปากคำแยกกับสามี ซึ่งนางสาวปนัดดารับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าลูกเองหลังคลอด โดยใช้ผ้าขนหนู ปิดหน้า ปิดปาก ปิดจมูกลูก ขณะที่อุ้มอยู่ที่ตักจนแน่นิ่ง จากนั้นไปบอกกับสามีว่าคลอดลูกออกมาแล้วลูกเสียชีวิต จึงช่วยกันคิดทำลายศพ
ผู้การสภ. บ้านฝาง เปิดเผยอีกว่า สามีจึงนำเด็กไปโยนไว้ที่กะละมังในห้อง ก่อนที่จะตัดสินใจพากันขับมอเตอร์ไซค์นำเด็กมาเผา เพราะคิดว่าหากฝังก็เกรงว่าจะมีคนเห็น ทั้งนี้จากการตรวจสอบเพิ่มเติม คาดว่านางสาวปนัดดา ไม่ได้ตั้งใจที่จะมีลูกตั้งแต่แรก เพราะไม่มีการฝากครรภ์ และเคยให้สามีหาซื้อยาขับลูกออก แต่ไม่สำเร็จ และยังใช้ชีวิตตามปกติ และไม่มีการบำรุงครรภ์แต่อย่างใด
ตรวจสอบประวัติอาชญากรฝั่งสามี พบว่ามีพฤติกรรมเสพยาเสพติด เคยถูกดำเนินคดี ส่วนภรรยา มีประวัติลักทรัพย์ของครอบครัว จนถูกตัดขาด และหลังจากคลอดลูก ทำร้ายลูกจนเสียชีวิต จากนั้นได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเพราะอาการเสียเลือด แต่เปลี่ยนโรงพยาบาลไปเรื่อย ๆ เพราะกลัวถูกจับได้ แต่สุดท้ายก็หนีไม่รอด ถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางสาวปนัดดา เครียดจัดพยายามใช้มือฉีกปอกหมอนเป็นเส้น แล้วมามัดต่อกันเป็นเชือก หวังทำร้ายตัวเองหนีความผิด แต่เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยได้ทัน และนำสิ่งของที่อาจเป็นอันตรายออกมา ซึ่งในช่วงสายวันนี้ จะคุมตัวนางสาวปนัดดา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามจุดที่ก่อเหตุ จากนั้นจะนำผู้ตั้งหาส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย