แม่ใจยักษ์ที่ทำร้ายลูกทารกแรกคลอดจนตายเผยทั้งน้ำตา หากย้อนเวลาได้และชีวิตมีทางเลือกคงไม่คิดฆ่าลูก
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 สิงหาคม 2568 ตำรวจ สภ.บ้านฝาง ควบคุมตัว น.ส.ปนัดดา อายุ 33 ปี ปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณเตาเผาถ่านกลางไร่อ้อยของชาวบ้าน ใน ต.โนนฆ้อง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นจุดที่ น.ส.ปนัดดา และ นายพงศธร อายุ 30 ปี ผู้เป็นสามี ได้ร่วมกันนำร่างลูกทารกวัยแรกคลอดของตนเองมาเผาอำพราง ในช่วงบ่ายของวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา
ก่อนจะนำตัวไปทำแผน จุดที่ 2 ที่บ้านของ น.ส.จารุวรรณ เจ้าของเตาเผาถ่านและเพื่อนรุ่นพี่ของ น.ส.ปนัดดา ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาเดินทางมาพบ หลังจากลงมือเผาอำพรางทารกเสร็จ ก่อนจะควบคุมตัวมาทำแผนในจุดสุดท้ายที่ห้องเช่าของอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น ซึ่งเป็นจุดที่ น.ส.ปนัดดา คลอดทารกออกมา ก่อนจะร่วมกันกับสามีนำร่างของทารกออกจากห้องเช่า แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์ นำไปเผายังเตาเผาถ่านดังกล่าว
น.ส.ปนัดดา ผู้ต้องหา เล่าทั้งน้ำตาว่า วันที่ 15 ส.ค. ตนเองอยู่ห้องคนเดียว ส่วนสามีออกไปทำงาน ตนจึงคลอดลูกอยู่ที่ห้องคนเดียว ขณะคลอดลูกก็หมดแรงเป็นลมไปหลายรอบ แต่สุดท้ายก็คลอดลูกสำเร็จ เมื่อลูกคลอดออกมาแล้วจึงอุ้มลูกวางไว้ที่ปลายเตียง ซึ่งได้ยินเสียงลูกร้องหนึ่งครั้ง แต่ขณะที่ตนก้าวขาลงจากเตียง จังหวะนั้นตนเองเกิดหน้ามืดจึงฟุบศีรษะลงไปทับลูก จำไม่ได้ว่าหมดสติไปนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีตอนที่สามีกลับมา สามีเป็นคนจัดการแต่เห็นว่าร่างกายลูกมีลักษณะเขียวคล้ำไปแล้ว หลังจากคลอดออกมาก็ไม่ได้นำลูกมาเข้าเต้าเพื่อดูดนมแม้แต่ครั้งเดียว
หลังจากที่ตนเองและสามีเห็นว่าลูกเสียชีวิตแล้ว กลัวความผิดก็กลัว ไม่กล้าแจ้งขอความช่วยเหลือจากใคร รวมทั้งเสียเลือดมาก ไม่กล้าไปโรงพยาบาล ยอมรับเครียดมาก เพราะการใช้ชีวิตที่ผ่านมาตนเองกันแค่สองคนกับสามี จึงตกลงกันว่าจะเอาลูกไปเผาในเตาเผาถ่านดังกล่าว เมื่อ วันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา
ยอมรับว่า ตอนที่รู้ว่าลูกตายและหลังจากเอาลูกไปเผา ตนเองก็มานึกเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำไป คนที่รับรู้ก็จะพูดว่า ก่อนจะทำทำไมไม่คิด ทำไมไม่เอาลูกไปให้คนอื่นรับเลี้ยง สถานที่รับเลี้ยงเด็กก็มี ตนเองอยากบอกว่า เคยโทรปรึกษาแล้ว แต่หน่วยงานนั้นบอกว่า การที่จะยกบุตรให้ไม่ใช่เรื่องง่าย ตนไม่รู้จะทำยังไงไม่มีญาติพี่น้องที่จะช่วยเหลือ มีกันแค่สองคน หามื้อกินมื้อ วันคลอดลูกตนเองเครียดจนสติแตก วันนี้อยากบอกลูก บอกสังคมว่า ตนเองรู้ตัวดีว่าได้กระทำผิด ทำให้ลูกมาเกิดแล้วทำไมถึงไม่เลี้ยง ใครก็รักชีวิตตัวเองทั้งนั้น มันผิดพลาดไปแล้ว หากย้อนเวลาได้ก็อยากแก้ไข ไม่มีใครอยากให้เรื่องเป็นแบบนี้
ด้าน พ.ต.อ.กรภพ เนตรไธสง ผกก.สภ.บ้านฝาง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ขณะที่ร้อยเวร เข้าตรวจสอบความเรียบร้อยในห้องขัง พบว่า แม่ของทารก ผู้ต้องหาคดีเผาทารกอำพราง ที่ถูกคุมขังในห้องขังโรงพักคืนแรกมีอาการเครียดหนัก ได้ใช้ปลอกหมอนฉีกทำเป็นเชือกเตรียมทำร้ายตัวเองในห้องขัง โชคดีตำรวจไปพบก่อนจึงระงับเหตุได้ทัน โดยหลังจากทำแผนเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้หาทั้งสองรายส่งฝากขังช่วงบ่ายวันนี้ โดยแจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และ ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย”
ส่วนการให้ข้อมูลขณะนำทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่แตกต่างจากคำให้การที่เจ้าหน้าที่ ตร.เค้นสอบกว่า2ชม.กว่าจะรับว่าตนเองเป็นคนเอาผ้าขนหนูปิดปากปิดจมูกลูกเองขณะอุ้มอยู่จนเด็กแน่นิ่งไปจึงปล่อย เจ้าหน้าที่มีหลักฐานมัดคำให้การอยู่แล้ว จึงไม่ได้มีปัญหาเรื่องสำนวนการสอบสวนแต่อย่างใด
