แม่ทัพภาคที่ 2 แจงเสียงระเบิดที่ตาควายคืนวานนี้ มีแนวโน้มกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง ยืนยันไม่รื้อแนวรั้วช่องอานม้า ไม่ว่าจะเป็นแม่ทัพท่านใดมารับตำแหน่ง ก็ไม่รื้อ ไม่อยากให้รุกล้ำซ้ำเดิม ถ้าเอาออกก็จะขยับล้ำเข้ามาอีก หลังเกษียณขอทำหน้าที่พลเมืองดีของชาติ
วันนี้ (21 ส.ค.68) พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันอธิปไตยของชาติอย่างเต็มที่ แนวรั้วที่มีอยู่เป็นเพียงการป้องกันการรุกล้ำของกำลังทางทหาร ไม่ได้หมายความว่าเป็นเส้นเขตแดนถาวร อย่างไรก็ตาม การสร้างแนวรั้วเพิ่มเติมจำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่าย ส่วนกรณีข่าวลือว่ามีการรื้อถอนแนวรั้วที่ช่องอานม้านั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีการรื้อถอน ฝ่ายกัมพูชาขอให้เราเอาออก แต่เรายืนยันว่าไม่เอาออก เพราะเป็นเขตอธิปไตยของไทย ไม่ว่าแม่ทัพท่านใดมารับตำแหน่งก็จะไม่รื้อออก เพราะไม่อยากให้ซ้ำเดิม ถ้าเอาออก ก็จะขยับล้ำเข้ามาอีก และไทยยังคงยึดมั่นในหลักการปกป้องพื้นที่อธิปไตยตามเดิม
ส่วนการประชุม RBC สมัยวิสามัญ พลโท บุญสิน กล่าวว่า นัดประชุมกับฝ่ายกัมพูชาในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ที่ช่องสะงำ เป็นการนั่งพูดคุยกันธรรมดา ผลสุดท้ายอยู่ที่ผู้นำกัมพูชา อย่างไรก็ตาม การประชุมระดับแม่ทัพอาจไม่ค่อยมีผลเท่าไรนัก แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการหารือให้เกิดความสงบเรียบร้อย
“ยอมรับว่าไม่เคยไว้ใจกัมพูชา หากมีการยั่วยุเกินกว่าเหตุ ไทยก็มีสิทธิ์ตอบโต้ตามสมควรแก่เหตุเช่นกัน ส่วนการเสริมกำลังของกัมพูชาในพื้นที่ชายแดน เป็นการดำเนินการปกติของฝ่ายนั้น เพื่อทดแทนกองกำลังที่สูญเสียไป แต่กองทัพของไทยก็เตรียมความพร้อมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้ว” พลโท บุญสิน กล่าว
สำหรับกรณีเสียงระเบิดที่เกิดขึ้นบริเวณตาควายคืนวานนี้ (20 ส.ค.68) พลโท บุญสิน บอกว่า มีแนวโน้มว่าน่าจะมาจากการเหยียบกับระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาวางเอาไว้ เขาวางเยอะจึงเป็นไปได้ที่จะเผลอเหยียบถูกเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทหารไทย ส่วนเรื่องที่มีมวลชนเดินขบวนชุมนุมไม่เอา MOU 43-44 นั้น ถือเป็นเรื่องของรัฐบาลและมวลชนที่จะพิจารณา แต่กองทัพภาคที่ 2 ยึดถือการปฏิบัติจากแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งเป็นมาตราส่วนที่ละเอียดที่สุด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติต่อไป จึงฝากถึงประชาชนว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องการป้องกันอธิปไตย เพราะกองทัพทั้ง 3 เหล่าทัพ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และตำรวจ ต่างร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง และยืนยันว่า กองทัพจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด พร้อมขอบคุณประชาชนที่ส่งกำลังใจและนำสิ่งของมาสนับสนุน เพราะถือเป็นแรงหนุนสำคัญให้ทหารปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่หวั่นไหว”
พลโท บุญสิน กล่าวยืนยันว่า จะเกษียณอายุราชการตามกำหนด หลังเกษียณจะขอทำหน้าที่เป็นพลเมืองดีของชาติ หากกองทัพยังต้องการคำปรึกษา ก็พร้อมให้ความร่วมมือตามที่สามารถทำได้ โดยย้ำว่า ตนไม่เคยรู้สึกถูกกดดันในการทำงาน มีแต่ความสุขที่ได้ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติอย่างเต็มกำลัง จนถึงวาระสุดท้ายของการรับราชการ
วันนี้ที่สโมสรร่วมเริงไชย ภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา พลโทบุญสิน ได้เดินทางมารับมอบสิ่งของสนับสนุนและส่งกำลังใจให้ทหารปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดนไทย-กัมพูชา จากหน่วยงานต่าง ๆ 20 หน่วยงาน อาทิ คณะกรรมการกองทุนพุทธบูชาบุญนิธิ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พร้อมคณะศิษย์พระราชสิทธิวราจารย์ (หลวงพ่ออุตม) มอบวัตถุมงคลเหรียญสมเด็จพระญาณสังวรสเด็จพระสังฆราช รุ่นมรดกธรรม จำนวน 2,000 เหรียญ, บริษัทเทอราโกร เฟอร์ดีไลเซอร์ จำกัด มอบปูนขาว 50 ตัน, บริษัทเอสเอ็นเจ แสนวาส 99 จำกัด มอบผ้าใบเอนกประสงค์ 400 ผืน เปลเอนกประสงค์ 50 ชุด, บริษัทซีออน เคมิคอล (เอเชีย) จำกัด มอบสเปรย์ทำความสะอาดอาวุธปืนและผ้าเช็ดปืน รวมทั้งหลายหน่วยงาน มอบเงินสนับสนุน อีกกว่า 5 แสนบาท