สนามข่าว 7 สี - จากกรณีเหตุคนร้ายใช้คาร์บอมบ์ ลอบโจมตีฐานปฏิบัติการของชุดคุ้มครองตำบล ในจังหวัดนราธิวาส เมื่อวานแม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไปดูภาพเหตุการณ์กันอีกครั้ง
กล้องวงจรปิดทางแยกเข้าบ้านปูลาเจ๊ะมูดอ เวลา 20.17 น.ของวันที่ 20 สิงหาคม บันทึกภาพเกิดเหตุคาร์บอมบ์ บริเวณหน้าฐานปฏิบัติการของชุดคุ้มครองตำบลศาลาใหม่ หมู่ที่ 1 บ้านโคกมะเฟือง อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส หลังระเบิดทำงาน ยังได้ยินเสียงปืนหลายนัด ทำให้มี มี อส.ที่ประจำอยู่ในฐาน ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย มีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ
และช่วงเช้าวานนี้ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบหลุมรอยระเบิดบนถนนขนาดใหญ่ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ปิดล้อมเส้นทางในพื้นที่ โดยเฉพาะลำน้ำชายแดนไทย-และประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกันการหลบหนีข้ามประเทศ และย้ำให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ เพราะพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ที่ลักลอบขนย้ายอาวุธและกระสุนจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่พื้นที่ชายแดนประเทศไทย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุด EOD และชุดพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบพื้นที่ เพื่อเก็บหลักฐานอย่างละเอียด พบระเบิดที่คนร้ายใช้ ประกอบซุกซ่อนใส่ไว้ในรถเก๋ง เป็นถังก๊าซหุงต้ม น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม และ 25 กิโลกรัม รวม 2 ถัง โดยคนร้ายได้เข้าเกียร์แล้วกระโดดออกจากรถ ปล่อยให้รถเก๋งไหลไปชนกับฐาน ที่เป็นกระสอบทราย ก่อนที่จะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คนร้ายอีกคันที่มารับขี่หลบหนีไป
ส่วนคนร้าย 2 คน หลังเกิดเหตุ พบว่าวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปทางจุดเกิดเหตุ ประมาณ 250 เมตร มุ่งหน้าไปอำเภอสุไหงโกลก
เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ เป็นกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มที่เคยก่อเหตุใช้คาร์บอมบ์ เมื่อวันที่ 29 กันยายน ปี 2567
ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่มีบ้านพักอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ บอกว่ากำลังจะอาบน้ำ แต่พอได้ยินเสียงดังสนั่น ก็รีบหมอบและปิดไฟในบ้าน เพราะกลัวจะได้รับอันตราย
ไปดูอีก 1 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เช่นกัน
เป็นภาพขณะที่รถบรรทุก 10 ล้อ ของบริษัทเหมืองแร่แห่งหนึ่ง ที่ถูกขโมยออกมาจากในพื้นที่เหมือง และนำไปจอดเผาริมถนนทางหลวงชนบท ที่ 4013 บ้านน้ำวน หมู่ที่ 1 ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ
นอกจากนี้คนร้ายยังได้ก่อเหตุเผาอาคารสำนักงาน และเครื่องจักรอีกจำนวนหนึ่ง ที่อยู่ในพื้นที่บ้านไอบาลอ หมู่ที่ 6 ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ
โดยจุดนี้ มีรถแบ็กโฮ ได้รับความเสียหาย 2 คัน รถบรรทุก 10 คัน และพ่วง 4 คัน นอกจากนี้ยังมีอาคารสำนักงาน 1 หลัง และบ้านพักคนงานได้รับความเสียหายอีก 1 หลัง
