รวบหนุ่มเอื้อแก๊งมิจฉาชีพแอบอ้างแอปเงินกู้ธนาคาร หลอกเหยื่อโอนเงิน เกือบ 4 แสนบาท

รวบหนุ่มเอื้อแก๊งมิจฉาชีพแอบอ้างแอปเงินกู้ธนาคาร หลอกเหยื่อโอนเงิน เกือบ 4 แสนบาท

View icon 149
วันที่ 22 ส.ค. 2568 | 11.39 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุม นายสุประการณ์ ฯ อายุ 21 ปี

พฤติการณ์ คดีที่ 1. เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ผู้กล่าวหา ซึ่งพักอาศัยอยู่บ้านพักทางหลวงชนบท ม. 2    ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้เข้าในแอปเงินกู้ธนาคารที่เปิดไว้สาธารณะ เพื่อที่จะกู้เงินผ่านระบบ แอปของธนาคาร ในระหว่างที่กำลังดำเนินการเข้าแอปเงินกู้นั้น ได้มีการแจ้งในระบบแอปว่า ให้กดเข้าลิงก์ จึงได้กดเข้าไป จากนั้นลิงก์นำเข้าสู่ระบบไลน์เป็นรูปหน้าแอปธนาคารดังกล่าว คนร้ายได้หลอกให้ทำธุรกรรมการเงิน โดยส่งข้อมูลส่วนตัวให้ผ่านทางแชทไลน์ เมื่อทำธุรกรรมแล้วคนร้ายในแอปอ้างว่า ผู้เสียหายได้ทำธุระกรรมผิดพลาด และให้รับผิดชอบโดยการโทรศัพท์มาข่มขู่ให้เกิดความกลัว

จากนั้นให้ผู้เสียหายโอนเงินเป็นค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่งั้นจะดำเนินคดีกับผู้เสียหายและบุคคลที่อ้างอิงในการกู้เงิน จึงได้โอนเงินตามบัญชีที่คนร้ายส่งมาให้ โดยโอนจาก บัญชี ไปยังบัญชีของสุประการณ์ ฯ โอนจำนวน 2 ครั้ง โอนครั้งที่ 1 โอนไป จำนวน 49,999 บาท เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 เวลา 19.13 น. โอนครั้งที่ 2 จำนวน 22,860 บาท เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 เวลา 14.16 น. รวมแล้วเป็นเงิน 72,849 บาท น่าเชื่อตัวเองถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความออนไลน์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้นำเอกสารหลักฐานการโอนให้มาให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ติดตามดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พฤติการณ์ คดีที่ 2. เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2567 ผู้เสียหาย มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษนั้น ได้เข้าในแอปเงินกู้ธนาคารที่เปิดไว้สาธารณะ เพื่อที่จะกู้เงินผ่านระบบแอปของธนาคาร ในระหว่างที่กำลังดำเนินการเข้าแอปเงินกู้นั้น ได้มีการแจ้งในระบบแอปว่า ให้กดเข้าลิงก์ จึงได้กดเข้าไป จากนั้นลิงก์นำเข้าสู่ระบบไลน์เป็นรูปหน้าแอปธนาคาร คนร้ายได้หลอกให้ทำธุรกรรมการเงิน โดยส่งข้อมูลส่วนตัวให้ผ่านทางแชทไลน์ เมื่อทำธุรกรรมแล้วคนร้ายในแอปอ้างว่า ผู้เสียหายได้ทำธุรกรรมผิดพลาด และให้รับผิดชอบโดยการโทรศัพท์มาข่มขู่ให้เกิดความกลัว จากนั้นให้ผู้เสียหายโอนเงินเป็นค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่งั้นจะดำเนินคดีกับผู้เสียหายและบุคคลที่อ้างอิงในการกู้เงิน จึงได้โอนเงินตามบัญชีที่คนร้ายส่งมาให้ โดยโอนเข้า 25 ต.ค. 67 เวลา 19.21 น. จำนวนเงิน 54,000 บาท บัญชีนายสุประการณ์ ฯ ยอดรวม 386,229.86 บาท จึงได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้นำเอกสารหลักฐานการโอนให้มาให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พฤติการณ์การจับกุม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายสุประการณ์ ฯ ผู้ต้องหารายนี้ ได้ปรากฏตัวอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จึงได้เข้าไปตรวจสอบยังพื้นที่ดังกล่าว พบว่า นายสุประการณ์ ฯ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจับกุมตัว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบและแจ้งสิทธิตามกฎหมายข้างต้นให้ทราบ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

​จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของนายสุประการณ์ ฯ พบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1137/2568 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนความผิดฐานโดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ, และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะน่าไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง