กระทรวงข้อมูลข่าวสารของกัมพูชา ฟ้องประชาคมโลก ระบุว่ายังพบการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทั้งตัดถนนใหม่, การสร้างบังเกอร์ และวางลวดหนาม กระทบต่อประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ความขัดแย้ง
วันนี้ (22 ส.ค. 68) กระทรวงข้อมูลข่าวสารกัมพูชา เผยว่า เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.68) กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา ได้เชิญทูตและผู้แทนจากสถานทูต 42 แห่ง ตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศ เข้ารับฟังการชี้แจ้งสถานการณ์ชายแดนกัมพูชา*ไทย
โดยทางกัมพูชาแจ้งต่อนานาชาติว่า กัมพูชารู้ดีถึงความโหดร้ายของสงคราม กัมพูชาจึงต้องการเลือกแนวทางสันติภาพ แต่หลังมีข้อตกลงหยุดยิง กัมพูชาเห็นการละเมิดข้อตกลงหลายประการของฝ่ายไทย ทั้งการตัดถนนใหม่, การสร้างบังเกอร์ และการวางลวดหนาม ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ความขัดแย้ง
นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังคงควบคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นาย ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าถูกฝ่ายไทยจับตัวไปอย่างผิดกฎหมาย โดยเหตุการณ์เหล่านี้บั่นทอนความไว้วางใจ และยิ่งทำให้ข้อตกลงหยุดยิงมีความเปราะบาง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพุธ (20 ส.ค.68) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาได้นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) จาก 5 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, สปป.ลาว, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร เพื่อสังเกตการณ์ และรายงานสถานการณ์ล่าสุดภายหลังข้อตกลงหยุดยิง โดยมีการนำคณะ IOT ไปดูจุดที่อ้างว่าเป็นหลุมที่ถูกระเบิดตกใส่บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร ซึ่งกองทัพไทยเคยชี้แจ้งแล้วว่า ข้อกล่าวหาที่กัมพูชาระบุว่าปราสาทพระวิหารได้รับความเสียหายจากกองทัพไทยเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง