เจาะประเด็นข่าว 7HD - หลังจากที่ นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1ถูกวิจารณ์ เรื่อง ชิงปิดประชุมก่อนพิจารณาญัตติ MOU 2543-2544 เป็นเพราะ สส.ฝั่งรัฐบาลเหลือในห้องประชุมน้อย นั้น ล่าสุด วันนี้ นายไชยยา ออกมายืนยัน ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการประสานงานผิดพลาด พร้อมย้ำว่า ตนเองไม่ได้เป็นเครื่องมือของใคร
หลังจากที่ นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1ถูกวิจารณ์ เรื่อง ชิงปิดประชุมก่อนพิจารณาญัตติ MOU 2543-2544 เป็นเพราะ สส.ฝั่งรัฐบาลเหลือในห้องประชุมน้อย นั้น ล่าสุด วันนี้ นายไชยยา ออกมายืนยัน ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการประสานงานผิดพลาด พร้อมย้ำว่า ตนเองไม่ได้เป็นเครื่องมือของใคร
เหตุการณ์ล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัส ที่ผ่านมา สภาฯ กำลังจะพิจารณาญัตติ เกี่ยวกับ MOU 2543-2544 ซึ่งขณะนั้น มีนายไชยา พรหมา รองประธานคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม แต่ปรากฎว่ายังไม่ทันได้พิจารณา นายไชยา ก็ชิงปิดประชุมไปก่อน จนถูกวิจารณ์อย่างหนัก จากฝ่ายค้าน ว่าสวนทางกับข้อตกลงระหว่างวิปทั้ง2ฝ่าย ทำให้สภาฯ ทำงานไม่เต็มที่
ล่าสุด วันนี้ นายไชยา บอกว่าวันนั้น ได้รับแจ้งมาว่า หลังรับทราบงานของของ กองทุนสื่อสร้างสรรค์เสร็จ หากไม่มีอะไรแล้วให้ปิดการประชุมได้ ตนจึงดำเนินการตามที่มีการประสานงานมา ไม่มีเจตนาปิดประชุมหนีปัญหา และ ไม่รู้ว่า ประธานวิปทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงกันไว้อย่างไร เมื่อไม่มีอะไรแจ้งตนก็ทำตามที่ตกลงกันไว้แต่แรก ยืนยันได้ว่าไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง และวิปรัฐบาลต้องรับผิดชอบเสียงในสภาฯ จะโทษสภาฯทั้งหมดไม่ได้
นายไชยา ย้ำว่า ตนไม่ได้เป็นเครื่องมือใครถึงแม้จะมาจากพรรคเพื่อไทยก็ตาม ถ้าหากทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ก็จะถูกตำหนิ และคนที่มอนิเตอร์ตนไม่ใช่ฝ่ายค้านแต่เป็นประชาชน หากทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ก็จะเสียเครดิตทางการเมืองได้
ขณะที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ออกมาการันตีให้ว่า ในวันนั้น นายไชยา ไม่รู้รายละเอียด ที่วิป2ฝ่ายตกลงกัน แต่ในการประชุมครั้งต่อไป สามารถยื่นญัตติด่วนด้วยวาจาเข้ามาได้อีก เพียงขอให้เป็นประชุมลับและไม่ต้องตั้งกรรมการวิสามัญพิจารณายกเลิกMOU43 และ 44 เพราะคณะกรรมการสามัญมีอยู่แล้ว