ชายวัย 46 ปี เสียชีวิตคาศาลาวัด ผู้เห็นเหตุการณ์ เผย ทะเลาะกับพระ ก่อนกลายเป็นศพ

ชายวัย 46 ปี เสียชีวิตคาศาลาวัด ผู้เห็นเหตุการณ์ เผย ทะเลาะกับพระ ก่อนกลายเป็นศพ

View icon 366
วันที่ 24 ส.ค. 2568 | 14.59 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชายถูกตีหัวเสียชีวิตคาศาลาวัด ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่า เห็นทะเลาะกับพระ ก่อนกลายเป็นศพ ตำรวจบุกค้นกุฏิพบเพียงคราบเลือด เร่งติดตามตัว

วันนี้ (24 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้ ร.ต.ท. ภานุวัฒน์ บัวผัน รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุพบชายถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในศาลาติดเจดีย์ วัดแห่งหนึ่งใน อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จึงประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมตตา เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายทรายชื่อคือนายสมศักดิ์ อายุ 46 ปี รูปร่างผอม สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ตามร่างกายมีรอยสัก บริเวณศีรษะมีร่องรอยการถูกตีด้วยของแข็ง มีแผลแตกที่ท้ายทอยและหน้าผาก นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณศาลาอเนกประสงค์ ใกล้กับเจดีย์ของวัด พบคราบเลือดและโทรศัพท์มือถือตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ บริเวณที่เกิดเหตุยังพบร่องรอยการตั้งวงนั่งดื่มสุรา มีกระติกน้ำ ชามข้าว และขวดสุราขาว 40 ดีกรี ลักษณะเชื่อได้ว่าเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ทำร้าย โดยตีบริเวณศีรษะของผู้เสียชีวิต

จากการสอบถามนายณัฐพล ก่ำโพธิ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมตตา เปิดเผยว่า จากการบอกเล่าของผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่าผู้ตายเป็นคนในชุมชนใกล้วัด ชอบมานั่งเล่นบริเวณศาลาอเนกประสงค์ภายในวัด ในคืนวันเกิดเหตุ มีพระรูปหนึ่งได้มีปากเสียงกับผู้ตายก่อนลงมือทำร้าย เนื่องจากบริเวณศาลาอเนกประสงค์มีคนจรจัดแอบเข้ามาพักอาศัย จับกลุ่มพูดคุยจนไปถึงการตั้งวงดื่มสุราอยู่เป็นประจำ พระรูปดังกล่าวจึงจ้างให้คนจรจัดไปซื้อสุราขาว 40 ดีกรี 1 ขวด มีค่าจ้างให้ครั้งละ 20 บาท เพื่อแอบนำไปกินในกุฏิ เมื่อสุราหมดพระรูปดังกล่าวจึงเดินออกมาเหมือนจะใช้ให้ไปซื้ออีก ผู้ตายจึงได้ตะโกนถามพระว่า "มึงเป็นพระมาทำเหี้ยอะไร" จึงได้มีปากเสียงกัน เกิดการตะลุมบอน เป็นเหตุทำให้นายสมศักดิ์ถูกตีด้วยขวดเหล้าขาวที่ศีรษะจนเสียชีวิตดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้บุกไปตรวจสอบที่กุฏิของพระรูปดังกล่าว พบว่าประตูกุฏิล็อก แต่ยังเปิดพัดลมอยู่ จึงได้งัดเข้าไป แต่ไม่พบตัวของพระแล้ว พบเพียงคราบเลือดในบริเวณกุฏิ คาดว่าได้หลบหนีไปตั้งแต่ก่อเหตุแล้ว เบื้องต้นทราบว่าพระรูปดังกล่าวเป็นพระมาจากที่อื่นมาขอจำวัด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน และจะดำเนินการติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง