เวลา 09.00 น. วันนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลง ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงเป็นประธานในการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์งานบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวาย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ เป็นปีที่ 88 ในการนี้ ทรงบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ เจ้าอาวาสยุคที่ 4, พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสยุคที่ 1, สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (จินฺตากรเถร) เจ้าอาวาสยุคที่ 5 และพระศาสนโศภน (ภาณกเถร) เจ้าอาวาสยุคที่ 3 โอกาสนี้ โปรดให้อัญเชิญพระพุทธรูปประจำวันประสูติ และประจำวันเกิดคู่กับพระสถูปพระอัฐิ และอัฐิ อดีตเจ้าอาวาสทุกยุคออกประดิษฐาน ด้วย
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนเจริญผลพูลสวัสดิ์ ต้นราชสกุลชมพูนุท ประสูติแต่หม่อมปุ่น เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2402 ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 11 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ยุคที่ 2 เป็นพระราชกรรมวาจาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นพระราชอุปัธยาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยทรงศึกษาภาษาไทย บาลี สันสกฤต และพระปริยัติธรรมจนแตกฉาน มีพระนิพนธ์ตำราและหนังสือสำคัญทางพระพุทธศาสนา ซึ่งยังใช้เป็นคู่มือให้กับพระภิกษุสามเณรจนปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังจัดตั้งมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ริเริ่มให้จัดหลักสูตรธรรมศึกษา เป็นหลักสูตรการเรียนพระพุทธศาสนาสำหรับฆราวาสควบคู่ไปกับหลักสูตรนักธรรมของบรรพชิต
ในปี 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดสถาปนาพระอิสริยยศทางพระบรมราชวงศ์และพระสมณฐานันดรศักดิ์ เฉลิมนามพระอัฐิ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ขึ้นเป็น "พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ" เสด็จที่ "สมเด็จพระมหาสมณเจ้า" มีพระนามว่า "สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์"
