สนามข่าว 7 สี - คืบหน้าเหตุสะเทือนใจ ผลพวงไทย-กัมพูชา เมื่อแม่ชาวกัมพูชา อุ้มลูกชายมาอยู่ไทยตั้งแต่เล็ก ๆ จนเติบโตอายุ 13 ปี และเรียนหนังสือตามปกติ แต่ใครจะคิด จู่ ๆ ตำรวจมาจับกุมตัวถึงโรงเรียน หลังถูกแจ้งความลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายพร้อมกับแม่ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้าน "หลักมนุษยธรรม" ตกลงเด็กผิดไหม
จุกอก สะเทือนใจไปเต็ม ๆ เมื่อครูทั้งกอด ทั้งปลอบขวัญ ลูกศิษย์อายุ 13 ปี ซึ่งเสียใจร้องไห้สะอึก สะอื้นแทบขาดใจ อยู่ที่ สภ.โรงพักบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ เพราะนักเรียนคนดังกล่าวถูกตำรวจควบคุมตัวมาจากโรงเรียน เพื่อเตรียมส่งตัวกลับกัมพูชา หลังถูกแจ้งความเป็น บุคคลต่างด้าวเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย เพราะแม่ชาวกัมพูชา พาเข้าเมืองมาตั้งแต่เป็นเด็กเล็ก ๆ อยู่จนเติบโต ไม่เคยเดินทางไปประเทศกัมพูชาแม้แต่ครั้งเดียว แถมก็ยังพูดภาษาบ้านเขาไม่ได้ด้วย
สอดคล้องกับ นายใบ หรือ นายศิริโชค อายุ 67 ปี พ่อเลี้ยงของเด็กชายคนดังกล่าว เล่าว่าเขาอยู่กินกับเมียชาวกัมพูชา มาได้ราว ๆ 8-9 ปีแล้ว โดยลูกก็มาอยู่ไทย กับแม่ ตั้งแต่อายุ 3 ขวบเท่านั้น กระทั่งพอจะเข้าเรียนหนังสือ จึงรับรองเป็นผู้ปกครองให้พร้อม ยืนยัน ลูกชาย ถือสัญชาติกัมพูชาจริง
ด้าน คณะครู ที่ตามมาพบเด็กนักเรียน ที่ ตม.จังหวัดสุรินทร์ เพื่อมอบเงิน 14,000 บาท ให้เด็กไว้ใช้ แต่ก็ไม่ทันเพราะสองแม่ลูก ถูกส่งไปที่ด่านอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ก่อนเผยว่า ลูกศิษย์ เรียนดี จบประถมศึกษาด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 มีความสามารถด้านดนตรี และกีฬา ถือเป็นเด็กคุณภาพ
ก็รู้สึกเป็นห่วง พร้อมยืนยันว่าทางโรงเรียนรับเด็กเข้าเรียนอย่างถูกต้อง หวังว่าทางกัมพูชา จะช่วยสองแม่ลูกให้มีเอกสารถูกต้อง เพื่ออนาคตอาจมีโอกาสกลับมาเรียนที่ไทยใหม่ พอเรื่องมาแบบนี้ ก็มีเสียงวิพากย์-วิจารณ์ ท้วงติง ทั้งนักวิชาการ นักสิทธิมนุษยชน นักจัดการศึกษา และนักกฎหมาย อาทิ อาจารย์ ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ ใจความหลัก ๆ คล้ายกับดึงสติ บอก "ชาตินิยมต้องมี #มนุษยธรรม" ถ้าทำอย่างนั้น...เราเสียหายในสายตาชาวโลกแน่ หรือนักการศึกษา ก็ย้ำว่าการที่ตำรวจไปจับเด็ก โดยไม่มีหมายจับ ไม่ชอบด้วยกฎหมายผิดทั้งอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และกฎหมายคุ้มครองเด็ก
มาฟังมุม ผู้กำกับการ สภ.บัวเชด บอกว่า มีคนร้องเรียนว่า มีคนต่างด้าวมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ พอตรวจสอบไม่พบหลักฐานใด จึงต้องแจ้งข้อหา "หลบหนีเข้าเมือง" ก่อนแนะนำสองแม่ลูก ว่าต้องกลับกัมพูชา ไปทำให้ถูกต้อง ก่อนกลับเข้ามาใหม่ เด็กก็จะได้กลับมาเรียนตามปกติได้ ซึ่งทั้งแม่ เด็ก รวมถึงครูที่เชิญมาคุยเพิ่มก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว
แต่เรื่องนี้ สุดท้ายก็พลิก เมื่อ กระทรวง พม. ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ คุ้มครองสวัสดิภาพ ตามอนุสัญญาว่า ด้วยสิทธิเด็ก CRC มาตรา 22 พร้อมย้ำ ความช่วยเหลือนี้ ไม่ใช่การพิจารณาให้สัญชาติไทยแก่เด็ก
ด้าน กระทรวงมหาดไทย โพสต์ใน X แจงเป็นข้อ ๆ แต่ใจความหลัก ๆ ก็เตรียมทำเรื่องขอผ่อนผันกับ ตม. ให้เด็กนักเรียนชาวกัมพูชาอยู่ไทยได้พร้อมแม่ ส่วนเรื่องเรียน วันนี้ (29 ส.ค.) ทีมสหวิชาชีพ จะหารือแนวทางดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันรัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยยึดถือ หลักสิทธิมนุษยชนเป็นที่ตั้ง
