ชาวบ้านผวาถูกสุนัขพิตบูล ไทยหลังอานของเพื่อนบ้าน วิ่งไล่กัดหลายคน เจ้าของเผย แต่ทุกคนที่โดนกัด รับผิดชอบค่าหมอให้หมด
วันนี้ (2 ก.ย. 68) ชาวบ้านบ้านโคกเพชร ม.8 ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังได้รับความเดือดร้อนจากกรณีที่สุนัขของเพื่อนบ้านในหมู่บ้านใกล้กัน ทั้งสายพันธุ์พิตบูลและพันธุ์ไทยหลังอาน ออกไปวิ่งไล่และกัดชาวบ้านที่ขับรถผ่านถนนหน้าบ้านบาดเจ็บหลายคน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ส.ค.68 ที่ผ่านมา สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานของบ้านหลังดังกล่าว ได้ไล่กัด น.ส.น้ำ อายุ 31 ปี ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากนำผลไม้ไปส่งให้ลูกค้า พร้อมกับลูกสาวอายุ 1 ขวบเศษ จนทำให้ข้อเท้าขาข้างขวาถูกคมเขี้ยวสุนัขกัดเป็นแผลเลือดไหล แต่โชคดีที่รถจักรยานยนต์ไม่ล้ม ไม่เช่นนั้นอาจจะบาดเจ็บทั้งสองคน แม้ว่าผู้เสียหายทุกรายที่ถูกสุนัขกัดบ้านหลังดังกล่าวกัดได้รับบาดเจ็บ จะได้รับการดูแลรับผิดชอบจากเจ้าของสุนัข บางรายก็พาไปหาหมอที่ รพ.เพื่อฉีดวัคซีน บางคนก็เลือกที่จะรับเงินสด 500-1,000 บาท เพื่อไปหาหมอเอง ยังไม่มีใครติดใจเอาเรื่องหรือไปแจ้งความ เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนบ้านและไม่อยากมีเรื่องมีราว แต่ชาวบ้านก็อยากให้เจ้าของดูแลสุนัขให้รัดกุมมากขึ้น ไม่ให้ออกไปวิ่งไล่หรือกัดชาวบ้านบาดเจ็บอีก เพราะบางคนที่เคยโดนสุนัขวิ่งไล่หรือถูกกัดก็ยังหวาดผวา จนไม่กล้าที่จะขับรถผ่าน แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะจำเป็นต้องใช้ถนนสายดังกล่าวไปไร่ไปนา ค้าขาย และลูกหลานก็ไปเรียนหนังสือ
น.ส.น้ำ ผู้เสียหายที่ถูกสุนัขกัดรายล่าสุด เล่าว่า วันเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปกับลูกสาวอายุขวบเศษ เพื่อนำผลไม้ไปส่งให้ลูกค้า ขากลับได้ถูกสุนัขบ้านหลังดังกล่าววิ่งออกมากัดจนขามีแผลเลือดไหล หลังเกิดเหตุก็ได้ตะโกนบอกเจ้าของบ้านว่าสุนัขกัด ทางเจ้าของก็แสดงความรับผิดชอบด้วยการถามว่าจะให้พาไปหาหมอ หรือจะให้จ่ายเป็นเงินเพื่อไปหาหมอเอง ตอนนั้นตนก็เลือกให้เจ้าของพาไปหาหมอเพราะไม่รู้ว่าจะต้องไปกี่รอบ และจะมีผลข้างเคียงภายหลังอะไรบ้าง ซึ่งเจ้าของก็พาไปหาหมอ 2 ครั้ง ครั้งแรกจ่ายค่ายาให้ ครั้งที่สองจ่ายเงินเอง และยังเหลือหมอนัดอีก 2 ครั้ง ซึ่งสามีและคนในครอบครัวกังวลจะอาจจะเกิดผลข้างเคียง เพราะตอนนี้แผลที่ถูกกัดยังมีอาการปวดมีน้ำหนองไหลออกมา จึงปรึกษากับคนในครอบครัวอาจจะไปแจ้งความไว้ก่อน และที่ทำให้ตกใจคือเจ้าของสุนัขบอกกับตนเอง ตนเป็นคนที่ 26 แล้วที่ถูกสุนัขของเขากัด แต่เขาก็รับผิดชอบทุกคน ก็อยากให้เจ้าของดูแลสุนัขอย่าให้ออกมาไล่กัดชาวบ้านอีก
ด้าน น.ส.บี (นามสมติ) นักเรียนชั้น ม.4 บอกว่า ตนเองกับเพื่อนที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปโรงเรียน ก็เคยโดนสุนัขบ้านหลังดังกล่าววิ่งไล่หลายครั้ง โชคดีที่ยังไม่ถูกกัดและรถไม่เสียหลักล้ม ยอมรับว่ากลัว ก็อยากให้เจ้าของดูแลสุนัข อย่าให้ออกมาวิ่งไล้หรือกัดชาวบ้านอีก
ขณะที่นายเล็ก อายุ 68 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านเดียวกันกับเจ้าของสุนัข บอกว่า เมื่อช่วงประมาณเดือน ก.พ.68 ช่วงเช้าขณะขี่รถจักรยานยนต์จะไปนา ก็ถูกสุนัขกัดที่ข้อเท้า แต่เจ้าของก็รับผิดชอบทั้งพาไปฉีดวัคซีนตามที่หมอนัดครบทั้ง 4 ครั้ง และยังคอยถามไถ่ซื้อของไปฝากทุกวันนี้ก็หายดีและไม่ได้ติดใจอะไรเพราะเห็นใจเจ้าของสุนัขเหมือนกัน เพราะต้องเลี้ยงสุนัขไว้คอยเฝ้าบ้าน ทุกวันนี้ก็ยังขับรถผ่านหน้าบ้านประจำแต่ก็ไม่ได้ถูกไล่หรือถูกกัดอีก
ทั้งนี้ทีมข่าวได้ไปสอบถาม น.ส.แนน (นามสมมติ) เจ้าของสุนัข บอกว่า ที่บ้านเลี้ยงสุนัขไว้ 3 ตัว เพราะบ้านค่อนข้างห่างจากคนอื่น เป็นพันธุ์อเมริกันพิตบูลเอ็กแอล 1 ตัว และพิตบูล แบนด๊อก 1 ตัว แต่ทั้ง 2 ตัว เป็นเหมือนสุนัขปัญญาอ่อนไม่ดุร้าย ส่วนอีก 1 ตัว คือ พันธุ์ไทยหลังอาน ชื่อเจ้ายูโร เป็นเพศเมียอายุประมาณ 5 ปี ปกติก็ไม่ได้ดุร้าย แต่บางครั้งก็จะมีสัญชาติญาณปกป้องตัวเองหรือเจอคนแปลกหน้า ส่วนที่ชาวบ้านบอกว่าถูกสุนัขกัดบาดเจ็บหลายคนนั้น ก็ยอมรับว่ากัดจริง แต่ไม่ถึง 26 คน ตามที่เขาให้ข้อมูล เป็นการพูดล้อเล่นกันเท่านั้น แต่ยืนยันว่าทุกคนที่ถูกสุนัขของตนเองกัดก็จะรับผิดชอบพาไปหาหมอ หรือบางคนก็เลือกที่จะเอาเงินค่าเสียหายเพื่อไปหาหมอเอง ตนก็จ่ายเงินให้ไปรายละ 1,000 บาท ก็ไม่เห็นมีใครติดใจหรือเรียกร้องอะไร และมีชาวบ้านบางคนที่ถูกสุนัขของบ้านหลังอื่นกัดมาสวมรอยเรียกค่าเสียหายกับตนเอง กล่าวหาว่าสุนัขที่บ้านกัดด้วย และไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ถึงไปร้องเรียนกับสื่อ ทั้งที่ตนเองก็รับผิดชอบไปแล้ว ส่วนที่ชาวบ้านอยากให้ดูแลสุนัขไม่ให้ออกไปไล่กัดคนก็รับปากว่าจะดูแลให้รัดกุมขึ้น
ทางด้านนายยอด เย็งประโคน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บอกว่า ที่ผ่านมายังไม่มีชาวบ้านหรือผู้เสียหายไปร้องเรียนเรื่องสุนัขแต่อย่างใด แค่ได้ยินจากชาวบ้านและผู้เสียหายพูดว่าถูกสุนัขกัด แต่เจ้าของดูแลรับผิดชอบแล้ว ก็ยังไม่มีคนแจ้งว่าติดใจเอาเรื่อง เนื่องจากผู้เสียหายและเจ้าของบ้านตกลงกันเอง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีชาวบ้านเกิดความกังวลใจ ทางเจ้าของก็ต้องดูแลสุนัขของตนเองให้ดี ไม่ให้ออกไปนอกบ้านวิ่งไล่คนผ่านไปมาหรือกัดชาวบ้านอีก