วันนี้ (2 ก.ย. 68) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา (ภ.จว.ฉะเชิงเทรา) พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ , พ.ต.อ.กิตติสัณห์ ชะนะ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และ พ.ต.อ.ภูริทัต บุญช่วย ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายแต หม่อง ชาวเมียนมา คนร้ายทุบตู้เอทีเอ็ม พยายามลักทรัพย์ บริเวณตลาดสุวินทวงศ์ ฉะเชิงเทรา และ นายสุรศักดิ์ อายุ 37 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านพักในพื้นที่ฉะเชิงเทรา และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งมีหมายจับในหลายท้องที่รวมกว่า 10 คดี
พ.ต.อ.ภูริทัต เปิดเผยว่า คดีของ นายแต ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ที่โรงงานในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร นานนับสิบปี จากนั้นออกจากงานมาพักอาศัยอยู่กับภรรยา ภายในซอยเพิ่มสิน 37 แขวงและเขตสายไหม กทม. เป็นคนชอบดื่มเหล้า วันเกิดเหตุถูกภรรยาไล่ออกจากบ้าน จึงประชดภรรยาเดินออกมาจากห้อง ก่อนเจอรถจักรยานยนต์ ของ นายเอกศิษฐ์ จอดเสียบคากุญแจไว้ท้ายซอย จึงขี่รถจักรยานยนต์ออกมา ก่อนเดินทางมาถึง จ.ฉะเชิงเทรา และเข้าไปก่อเหตุงัดตู้ ATM จำนวน 3 ตู้ แต่ไม่ได้เงินออกไป
จากนั้นจึงขี่รถจักรยานยนต์คันที่ขโมยมาไปขอพักอาศัยอยู่กับเพื่อนในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ภายในตลาดปองพล อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่หาข่าว ไล่เส้นทางจากกล้องวงจรปิด จนทราบที่อยู่ที่แน่ชัดของ นายแต จึงกำลังเข้าจับกุมเวลาประมาณ 14.30 น. วันที่ 1 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา ก่อนจะคุมตัวมาสอบสวนต่อที่สถานี สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งผู้ต้องหารายนี้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา อ้างที่ทำไปเพราะเมาและอยากประชดภรรยา นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภายในตัวพบบัตรทำงานสีชมพู โดยหมดอายุไปประมาณ 2 ปีแล้ว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมกับคดี พยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พันการจับกุม
ส่วนอีกหนึ่งคดีตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านพัก ซอยมหาจักรพรรดิ 1 ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา มีผู้เสียหายจำนวน 2 หลัง คนร้ายได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ตำรวจชุดสืบสวนจึงติดตามหาข่าว ก่อนจะทราบว่าผู้ต้องหาคือ นายสุรศักดิ์ ชาว จ.สระแก้ว แต่มาเช่าห้องพักอาศัยอยู่ใน ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา ชุดสืบสวนจึงตามไปจับกุมได้คาห้องเช่า พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่ใช่ใส่ในวันก่อเหตุ ก่อนคุมตัวมาสอบสวน และยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติ พบหมายจับและการถูกดำเนินคดีอาญา ความผิดเกี่ยวกับลักทรัพย์ มาแล้วจำนวน 9 คดี ในหลายพื้นที่