บุกทลายร้านค้ายึดน้ำกระท่อมและยาแก้ไอเถื่อนกว่า 5 ล้านบาท

บุกทลายร้านค้ายึดน้ำกระท่อมและยาแก้ไอเถื่อนกว่า 5 ล้านบาท

View icon 457
วันที่ 2 ก.ย. 2568 | 16.37 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (2 ก.ย. 68) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง
รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร
รอง ผกก.3 บก.ป และ พ.ต.ท.ศิษฎ์ พูลวงศ์ รอง ผกก.3 บก.ป.

​เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สุวิจักขณ์ รัตนพันธ์ สว.กก.3 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.4 กก.3 บก.ป. ​ร่วมกันจับกุม นายฤทธิเกียรติ อายุ 30 ปี

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน จำนวน 2 ข้อหา ดังนี้

1. “ฝ่าฝืนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 424 ที่ออกตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ข้อ 2 ให้พืช สัตว์ หรือส่วนของพืชหรือสัตว์ ตามบัญชีท้ายประกันนี้ เป็นอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย (บัญชีรายการที่ 52 กระท่อม ทั้งต้นและสารสกัด)” ระหว่างโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท”

2. ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติยา 2510 มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใด ผลิต ขาย นำสั่งเข้ามาในราชอาญาจักร ซึ่งยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต

ของกลาง จำนวน 9 รายการ ดังนี้

1. น้ำต้มพืชกระท่อม บรรจุอยู่ภายในขวดพลาสติกใส ขนาด 1 ลิตร จำนวน 1 ขวด
2. ยาแก้ไอยี่ห้อต่าง ๆ ขนาด 60 ML จำนวน 193 ขวด
3. น้ำต้มพืชกระท่อม บรรจุอยู่ภายในขวดพลาสติกใส ขนาด 1 ลิตร จำนวน 381 ขวด 
4. สำเนาธนบัตรไทยฉบับละ 100 บาท จำนวน 2 ฉบับ
5. สมุดจดบันทึกรายการขายน้ำต้มพืชกระท่อม จำนวน 2 เล่ม
6. แผ่นป้ายบอกประเภทรสชาติและราคาขาย จำนวน 1 ชุด

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ชป.4 กก.3 บก.ป. เข้าตรวจค้นบ้านเช่าไม่มีเลขที่ บริเวณถนนริมคลองสมถวิน ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม ทลายแหล่งผลิตและจำหน่ายน้ำต้มพืชกระท่อม และยาแก้ไอเถื่อน จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือ นายฤทธิเกียรติ อายุ 30 ปี สามารถตรวจยึดของกลางได้ดังรายการข้างต้น มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท

การสืบสวนยังพบว่า ผู้ต้องหามีการดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายอย่างเป็นระบบ ทั้งการสร้างแบรนด์ มีป้ายราคาจำหน่าย และใช้ช่องทางการเงินผ่านพร้อมเพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

จากนั้นผู้ต้องหาถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป