สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 2 กันยายน 2568

สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 2 กันยายน 2568

View icon 208
วันที่ 2 ก.ย. 2568 | 18.17 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
Open World เปิดโลกรายวัน : สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 2 กันยายน 2568


นานาชาติส่งความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหวอัฟกานิสถาน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 800 คน ขณะที่ทางการยังคงเร่งเดินหน้าผู้รอดชีวิต

ปฏิบัติการกู้ภัยและค้นหาผู้รอดชีวิตเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.0 ในพื้นที่ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน ยังคงเดินหน้าต่อไป โดยพื้นที่จังหวัดคูนาร์ (Kunar) และนันการ์ฮาร์ (Nangarhar) ได้รับผลกระทบหนักสุดจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ ซึ่งการกู้ภัยเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย และพื้นที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขา หมู่บ้านหลายแห่งถูกทำลายโดยสิ้นเชิง ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 812 คน บาดเจ็บอีกกว่า 2,800 คน และคาดว่าตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก

ด้านรัฐบาลตาลีบันร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ เนื่องจากมีผู้ประสบภัยหลายแสนคน บ้านเรือนจำนวนมากพังถล่มทำให้ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งสหประชาชาติ และประเทศต่าง ๆ อาทิ สหราชอาณาจักร, สวิตเซอร์แลนด์, อินเดีย และจีน ให้คำมั่นว่าจะส่งความช่วยเหลือแล้ว ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNOCHA) แสดงความกังวลว่า ในช่วง 24-48 ชั่วโมงที่ผ่านมา พื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักเช่นกัน ทำให้มีความเสี่ยงสูงว่าจะเกิดดินและหินถล่มตามมา


สื่อฯ กัมพูชาอวด “นครวัด” ทำรายได้กว่าพันล้านบาท

สำนักข่าวเฟรชนิวส์ (Fresh News) ของกัมพูชา รายงานอ้างอิงข้อมูลจาก "อังกอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์" (Angkor Enterprise) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลกัมพูชา ระบุว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 มีสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อตั๋วเข้าเยี่ยมชมอุทยานโบราณคดีนครวัด (Angkor Archaeological Park) และวัดเกาะแกร์ (Koh Ker Temple) มากถึง 669,619 คน ทำรายได้สูงกว่า 31 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่า 1,000 ล้านบาท เรียกได้ว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 2.72%

"อังกอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์" รายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อตั่วเยี่ยมชมวัดเกาะแกร์ จำนวน 13,779 คน สร้างรายได้มากกว่า 2 แสนเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 6.5 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ของกัมพูชา เคยโพสต์อวดผ่านโซเชียลด้วยว่า "นครวัด" ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดที่สุดในเอเชีย โดยเว็บไซต์ TripAdvisor



เวียดนามเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี การประกาศเอกราชจากการปกครองแบบอาณานิคม จัดพิธีสวนสนามครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

วันนี้ (2 ก.ย.) ประชาชนชาวเวียดนามหลายหมื่นคนพากันเดินทางมาร่วมชมพิธีสวนสนามฉลองวันประกาศเอกราชครบรอบ 80 ปี ที่จัดขึ้นในกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม โดยมีการขนอาวุธออกมาแสดงแสนยานุภาพ ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธ, รถถัง, เฮลิคอปเตอร์, เครื่องบินขับไล่, เรือดำน้ำ และเรือรบ นับเป็นพิธีสวนสนามครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ขณะที่ ทหารเวียดนามหลายพันนาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองทัพจากจีน, รัสเซีย และประเทศอื่น ๆ เดินทามาเข้าร่วมการเฉลิมฉลองครั้งนี้ด้วย

ด้านผู้นำประเทศและบุคคลสำคัญจากนานาชาติร่วมชมขบวนสวนสนาม ณ จัตุรัสบาดิ่ญ (Ba Dinh Square) ซึ่งในวันที่ 2 กันยายน 2488 โฮจิมินห์ ผู้นำการปฏิวัติ ได้ประกาศอิสรภาพครั้งประวัติศาสตร์ หลังจากอยู่ภายใต้การปกครองของอาณานิคมฝรั่งเศสมาเกือบศตวรรษ และถูกญี่ปุ่นยึดครองในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2


ซีเรียส่งออกน้ำมันดิบ 6 แสนบาร์เรล นับเป็นการส่งออกน้ำมันครั้งแรกของซีเรียในรอบ 14 ปี

วานนี้ (1 ก.ย.) น้ำมันดิบปริมาณ 6 แสนบาร์เรล ถูกส่งออกจากท่าเรือเมืองทาร์ทู ((Tartus)) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงกับบริษัทการค้า นับเป็นการส่งออกน้ำมันครั้งแรกของซีเรียในรอบ 14 ปี โดยในช่วงปี 2553 ซีเรียส่งออกน้ำมันถึงวันละ 3 แสนบาร์เรล ขณะนั้นเป็นเวลา 1 ปีก่อนการประท้วงต่อต้านอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด (Bashar al-Assad) จะปะทุขึ้นและลุกลามกลายเป็นสงครามกลางเมืองยาวนานเกือบ 14 ปี ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมถึงการผลิตน้ำมันดิบ

กระทั่งอดีตประธานาธิบดีอัสซาด ถูกโค่นล้มลงจากอำนาจได้ในที่สุด เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน รวมทั้งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรียของสหรัฐฯ ทำให้บริษัทต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ เริ่มพัฒนาแผนการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในซีเรีย


“เนสท์เล่” ปลด CEO ฐานมีสัมพันธ์ชู้สาวกับลููกน้อง

เนสท์เล่ (Nestle) บริษัทผลิตอาหารระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ปลด โรลองต์ เฟรเซ (Laurent Freixe) จากตำแหน่งประธานกรรมการฝ่ายบริหารหรือ CEO หลังจากผลการสอบสวนพบว่า เขามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพนักงานหญิงที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาโดยตรงจริงตามที่มีการร้องเรียนภายใน จึงถือเป็นการละเมิดจรรยาบรรณและหลักธรรมาภิบาลของทางบริษัทอย่างร้ายแรง

เฟรเซ ทำงานกับเนสท์เล่มาตั้งแต่ปี 2529 และเพิ่งขึ้นดำรงตำแหน่ง CEO เมื่อวันที่ 1 กันยายนปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องมาถูกปลดเพราะเรื่องพฤติกรรมส่วนตัวภายในปีเดียว ซึ่งการจากไปอย่างกะทันหันของเขาในครั้งนี้ ทำให้บริษัทเนสท์เล่ต้องเผชิญกับความผันผวนมากขึ้น เพราะนอกจากมีคู่แข่งจำนวนมากแล้วยังมีปัญหาเรื่องภาษีสินค้านำเข้าไปยังสหรัฐฯ

ทั้งนี้ พนักงานที่มีความสัมพันธ์กับเฟรเซ ไม่ได้อยู่ในระดับกรรมการบริหาร แต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงถูกมองว่าทำให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ โดยการปลด เฟรเซ ออกจากตำแหน่งครั้งนี้ ไม่มีการจ่ายเงินค่าจ้างออกแต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง