จับคาหนังคาเขา กลางวันเป็นพระ กลางคืนเป็นโจร

จับคาหนังคาเขา กลางวันเป็นพระ กลางคืนเป็นโจร

View icon 238
วันที่ 3 ก.ย. 2568 | 09.26 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
จับหนุ่มอายุ 20 ปี ขณะงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ สารภาพกลางวันเป็นพระ พอตกกลางคืนสลัดผ้าเหลืองสวมชุดฆราวาสเป็นโจร เพื่อหาเงินซื้อยาบ้าเสพ

กลางดึก วันที่ 2 กันยายน 2568 ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ สภ.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ออกตรวจในพื้นที่ ได้พบนายศุภัชชัย อายุ 20 ปี  มีลักษณะท่าทางเหมือนกำลังงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ อยู่หน้าร้านขายของชำในพื้นที่ หมู่ 9 ต.เซิม จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เซิม เข้าร่วมทำการจับกุม ตรวจสอบพบกระเป๋าผ้าสีน้ำเงินวางอยู่ใกล้ตู้เติมเงิน ภายในกระเป๋าพบคีมตัดเล็ก 1 อัน ไขควง 3 อันและประแจ 1 อัน

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เซิม ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายหลายรายว่า มีเหตุงัดบ้านเรือนและร้านค้า แล้วเข้าไปลักทรัพย์เป็นเวลาติดต่อกันหลายวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ก่อเหตุมีลักษณะการแต่งกายสวมกางเกงขายาวสีดำแถบขาว สวมเสื้อกีฬาบ้างและเสื้อแขนยาวบ้าง แต่ทุกครั้งผู้ก่อเหตุมักจะสวมหมวกสีเขียวลายพรางแบบปกคลุมใบหน้ามิดชิด และสะพายกระเป๋าผ้าสีน้ำเงินมีขาคีมตัดเหล็กโผล่ออกมาจากกระเป๋า โดยพฤติกรรมในการก่อเหตุ คือมักจะก่อเหตุในเวลากลางคืนช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. – 04.00 น. ทรัพย์สินที่ได้ไปจะเป็นเงิน โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้า และซิมโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและชุดสายตรวจ สภ.เซิม จึงได้ร่วมกันประชุมวางแผน เพื่อดักซุ่มรอผู้ก่อเหตุ ตามร้านค้าที่คาดว่าผู้ก่อเหตุอาจจะทำการก่อเหตุอีกครั้ง พร้อมกับให้ชุดสายตรวจทำการตรวจตราภายในพื้นที่ให้บ่อยครั้งขึ้น จนกระทั่งพบตัวผู้ต้องหากำลังก่อเหตุ และสามารถจับกุมตัวไว้ได้
 
สอบถามนายศุภัชชัย ยอมรับว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการงัดแงะร้านค้าเพื่อเข้าไปลักทรัพย์ เงินที่ได้ก็จะนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ และนายศุภัชชัยยังได้ให้การว่า ปกติตนจะบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในตำบลเซิม แต่เวลากลางคืนตนจะสวมใส่เสื้อผ้าแต่งกายเป็นฆราวาสออกจากวัดตระเวนงัดบ้านและร้านค้าเพื่อลักทรัพย์ ทำมาแล้ว จำนวน 6 ครั้ง และสารภาพว่าก่อนจะออกมาตะเวนลักทรัพย์ได้เสพยาบ้ามาก่อน อีกทั้งยังมียาบ้าที่เหลือซุกซ่อนอยู่ที่กุฏิภายในวัด

สอบถามเจ้าอาวาสยืนยันว่าเป็นพระลูกวัดจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขอหมายค้นกุฏิภายในวัดดังกล่าว พบยาบ้าจำนวน 43 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในขวดพลาสติกวางอยู่บนหัวเตียง ผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ยังพบทรัพย์สินที่ผู้ต้องหาขโมยมาอีกหลายรายการ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ทั้งหมดพร้อมกับชุดเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันที่ก่อเหตุตะเวนลักทรัพย์ ส่วนยาบ้านั้นนายศุภัชชัย บอกว่าซื้อจากวัยรุ่นในหมู่บ้าน ราคาเม็ดละ 22 บาท และจากผลการตรวจปัสสาวะจากโรงพยาบาลโพนพิสัย ยืนยันว่าพบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ส่วนข้อกล่าวหาอื่น ๆ พนักงานสอบสวน สภ.เซิม จะได้มีการแจ้งเพิ่มหลังสอบปากคำอีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง