สถานการณ์น้ำท่วมภาคอีสานดีขึ้น จ.เลย

เช้านี้ที่หมอชิต - สถานการณ์น้ำทางภาคอีสาน เริ่มดีขึ้น ที่จังหวัดเลย คืนเดียว ระดับน้ำในแม่น้ำเลย ในพื้นที่เทศบาลเมืองเลย ลดลง 30 เซนติเมตร

สถานการณ์น้ำท่วมภาคอีสานดีขึ้น จ.เลย
โดยเมื่อเช้าวานนี้ ระดับน้ำลดลง 30 เซนติเมตร หรือยู่ที่ 10 เมตร แต่ยังมีชุมชนในเขตเทศบาลเมืองเลย ประกอบด้วย ชุมชนหลังที่ทำการไปรษณีย์ ชุมชนโรงฆ่าสัตว์ ชุมชนวัดทับมิ่งขวัญ ชุมชนหลังวัดศรีสุทธาวาส และชุมชนตลาดเมืองใหม่ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำ ที่ระดับน้ำยังท่วมอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่ 2 หมู่บ้านนาอาน และหมู่บ้าน ในตำบลชัยพฤกษ์ ระดับน้ำสูง 2-3 เมตร มีประชาชนจำนวนกว่า 3,000 คน ได้รับผลกระทบ

ส่วนที่ อำเภอวังสะพุง น้ำป่าได้หลากเข้าท่วม หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 10 หมู่ที่ 13 และหมู่ที่ 17 ในตำบลหนองหญ้าปล้อง และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น

นายยศวัฒน์ พัชระศักดิ์สกุล ได้ระดม อส.อำเภอวังสะพุง และเทศบาลตำบลหนองหญ้าปล้อง เข้าช่วยเหลือชาวบ้านยกสิ่งของขึ้นที่สูง และกรอกกระสอบทราย ทำแนวป้องกันน้ำไม่ให้เข้าบ้าน

โดยช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ลงพื้นที่ตรววจสอบ สถานการณ์ พร้อมให้กำลังใจชาวบ้าน พบระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นน้ำหลาก ก่อนที่จะไหลลงแม่น้ำเลย ในบ้านปากปวน  จากการสำรวจเบื้องต้น พบมีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 200 หลังคาเรือน

น้ำท่วม อ.มัญจาคีรี เริ่มลด จ.ขอนแก่น
ส่วนที่เห็นเป็นบริเวณหน้า ธกส.มัญจาคีรี ที่ถูกน้ำหลากเข้าท่วมตั้งแต่เช้ามืดเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา และยังมีน้ำท่วมพื้นผิวถนนสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร มีชาวบ้านที่ได้รับเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท จากรัฐบาล ลุยน้ำ เพื่อไปกดเงิน

นายบุญปัน น้อยผาสม อายุ 84 ปี ที่ไปกดเงินช่วยเหลือรัฐบาล ต้องถอดรองเท้าลุยน้ำไปกดเงิน บอกว่า หลังจากที่ทราบว่าทางรัฐบาลมีโครงการช่วยเหลือดังกล่าวก็ได้เดินทางมากดเงินทันที ไม่ทราบว่าน้ำจะท่วมถนนหน้า ธกส.มัญจาคีรี

ส่วนสถานการณ์น้ำในอำเภอมัญจาคีรี มีแนวโน้มลดระดับลง โดยมวลน้ำที่หลากลงมาจากภูเม็ง ได้ไหลลงสู่คลองชีรอง และลำน้ำสาขา ผ่านทางบ้านสวนหม่อน ก่อนจะไหลไปลงที่หนองกุดเค้า แต่ยังคงล่าช้า เนื่องจากน้ำมีจำนวนมาก และคลองรอบเมืองมีขนาดเล็กเกินไป

ขณะที่ทหารจากกรมทหารราบที่ 8 ค่ายสีหราชเดโชไชย และจิตอาสา ได้เข้าซ่อมแซมสะพานไม้ชั่วคราว ที่บ้านหนองบัวเย็น หมู่ที่ 16 ตำบลนาข่า สะพานทางเข้าหมู่บ้าน และถนนท้ายหมู่บ้านชำรุดถนนขาด จากน้ำกัดเซาะ เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ 175 หลังคาเรือน ที่สัญจรผ่านสะพานแห่งนี้ได้รับผลกระทบ