เชื้อ “อีโบลา” แพร่ระบาดรอบใหม่ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก หลังพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 28 คน เสียชีวิตแล้ว 15 คน นับเป็นการพบการแพร่ระบาดครั้งแรกในรอบ 3 ปี
วันนี้ (5 ก.ย. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ประกาศการแพร่ระบาดรอบใหม่ของเชื้อ “อีโบลา” หลังพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 28 คน และเสียชีวิตแล้ว 15 คน จากการตรวจสอบตัวอย่างเชื้อเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา
ทางการสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ยืนยันว่าเป็นไวรัสอีโบลา สายพันธุ์ "ซาอีร์" (Zaire) ที่ก่อนหน้านี้ พบสัญญานการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาในหญิงตั้งครรภ์ อายุ 34 ปี ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่จังหวัดคาไซ (Kasai) เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา หญิงตั้งครรภ์คนดังกล่าวมีอาการอาเจียนและมีไข้สูง ซึ่งนับเป็นการพบการแพร่ระบาดครั้งแรกในรอบ 3 ปี ตั้งแต่การระบาดรอบหลังสุดในปี พ.ศ.2565 ที่จังหวัดเอเกวเตอร์ และคองโกเคยพบการแพร่ระบาดของไวรัส “อีโบลา” มาแล้วนับสิบครั้ง
ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า จำนวนผู้ป่วย “อีโบลา” มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากการแพร่ระบาดยังคงดำเนินต่อไป
ทั้งนี้ “อีโบลา” เป็นโรคหายาก และสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่ง เช่น สัมผัสกับเลือดของผู้ติดเชื้อ และมีระยะการฟักตัว 2-21 วัน จึงเริ่มแสดงอาการ โดยอาการระยะแรกจะมีไข้สูงทันที อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ และเจ็บคอ ระยะที่ 2 จะมีอาการ ท้องเดิน อาเจียน มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง ตับและไตมีอาการผิดปกติเล็กน้อย ในผู้ป่วยบางคนมีอาการเลือดออกทั้งภายนอกและภายในร่างกาย ซึ่งกรณีนี้มีโอกาสที่จะเสียชีวิตสูง