ห้องข่าวภาคเที่ยง - ฮือฮา "ทักษิณ"มาไล่เลียงเหตุการณ์ตั้งแต่เย็นวานนี้ มีข่าวว่า “นายทักษิณ ชินวัตร” ใช้เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว เตรียมบินออกนอกประเทศ
"ทักษิณ" แจงบินออกนอกเส้นทาง
ข่าวลือหนาหู บอกว่า นายทักษิณ จะไปหัวหิน แต่แล้วก็มีข่าวลือใหม่ว่าไปสิงคโปร์ จนในที่สุดเครื่องทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เมื่อเวลา 19.17 น. เดินทางออกนอกประเทศ เป็นประเด็นที่คนไทยเฝ้าติดตาม ว่าเครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ จะบินไปไหน บ้างก็ว่าหัวหิน บ้างก็ว่างสิงคโปร์ แต่สุดท้ายเจ้าตัวโพสต์แจงแล้ว ว่าอยู่ดูไบ
ชาวเน็ตเริ่มเกาะติด หลังเครื่องบินขึ้นสู่นานฟ้า ไม่นานก็ผ่าน อำเภอหัวหินไปแล้ว จนหลายคนคิดว่า ปลายทางน่าจะไปสิงคโปร์
หลายเพจรายงานว่า เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ กำลังบินเข้าน่านฟ้ามาเลเซีย คาดว่าอีกไม่นาน น่าจะถึงสิงคโปร์
แต่ดูแล้ว สิงคโปร์ก็ไม่น่าใช่ ! เนื่องจากเครื่องบิน ได้บินผ่านไปยังช่องแคบมะละกา เตรียมมุ่งหน้าคาบสมุทรอินเดีย จนหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ปลายทางจะเป็นดูไบหรือเปล่า
หลังจากนั้น เครื่องบินก็บินวนอยู่คาบสมุทรอินเดียอยู่ 2 รอบ จนหลายคนเรื่อมงงแล้วว่า นายนักษิณ จะตัดสินใจไปไหน
และก็เป็นไปตามคาด เครื่องบินของนายทักษิณ บินผ่านน่านฟ้าอินเดีย และถึงดูไบ เมื่อเวลา 02.40 น.ตามเวลาในไทย
"ทักษิณ" ชี้แจงเครื่องบินลงจอดดูไบ
ขณะที่ นายทักษิณ โพสต์ในเอกซ์ (X ) บอกว่า ตนตั้งใจไปสิงคโปร์จริง ๆ เพื่อไปตรวจสุขภาพ แต่ ตม.ไทย ถ่วงเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ทำให้การเดินทางไม่เป็นไปตามที่กำหนด ทำให้เครื่องบินส่วนตัว ไม่สามารถลงจอดที่สนามบินของสิงคโปร์ได้ทัน ตอน 22.00 น.
เมื่อไม่สามารถนำเครื่องลงจอดได้ทัน นายทักษิณ จึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทาง ให้นักบินมุ่งหน้าไปดูไบ เนื่องจากตนมีหมอกระดูก และหมอปอดอยู่ที่นั่น จึงใช้โอกาสนี้ไปเยี่ยมเพื่อนที่ดูไบด้วย ที่ไม่ได้เจอกันมา 2 ปีกว่า
นายทักษิณ บอกว่า "ผมตั้งใจจะกลับไปไทยไม่เกินวันที่ 8 เพื่อเดินทางไปศาลด้วยตนเองในวันที่ 9 กันยายนนี้" ตามนัด
นอกจากนี้ยังมีชื่อบุคคลอีก 4 คนด้วยกัน และมีกระแสข่าวว่า มีลูกสาว นางสาวพินทองทา คุณากรวงศ์ เดินทางร่วมกับ นายทักษิณ ผู้เป็นพ่อด้วย จนมีความเคลื่อนไหวจาก นางสาวพินทองทา โพสต์ไอจีสตอรี 22.17 น. บอกว่า "กล่อมลูกนอนอยู่ที่ไทยค่ะ งงกับข่าวมากมายที่ไปเรื่อย" ก็ตัดปมบินไปกับครอบครัวทิ้งไป
หลังจากนั้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็โพสต์ไอจีสตอรีเช่นกัน เป็นภาพสถานที่แห่งหนึ่ง แต่เช็กอินอยู่ที่กรุงเทพฯ
ข้อสังเกต เหตุเครื่องบินลงสิงคโปร์ไม่ได้
ด้าน รองศาสตราจารย์ เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความเห็น บอกว่า เพื่อนที่รู้เรื่องการบิน ส่งข้อมูลมาให้ว่า สนามบินชางงี (Singapore Changi Airport) มีเทอร์มินอลสำหรับเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งเปิด 24 ชั่วโมง
ส่วนสนามบิน Seletar แม้จะมีเวลาทำการตั้งแต่ 07.00-22.00 น. แต่ถ้าเป็นเที่ยวบินทางการแพทย์ (medical flight) ก็สามารถขอลงได้ 24 ชั่วโมงเหมือนกัน
นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตออกมาวิเคราะห์ประเด็น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุฉุกเฉินจริง หรือแค่ข้ออ้าง โดยเฟสบุ๊กเพจ ลุงกัปตัน พาบิน พากิน พาเที่ยว บอกว่า เวลานักบินเจอสถานการณ์ที่ลงสนามบินปลายทางไม่ทัน จะใช้วิธี Diversion คือ ถ้าไปไม่ทัน Seletar ยังมี Changi ที่อยู่ติดกันเลย แต่ถ้า Changi ไม่สะดวก ยังมี มาเลเซีย ที่เปิดรับเครื่องบินเจ็ตได้ หรือถ้าไม่พร้อมจริง ๆ ก็สามารถกลับไทยได้ เพราะสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ เปิดทั้งคืน ไม่จำเป็นต้องไปลงจอดดูไบ ที่ห่างออกไปกว่า 5,000 กิโลเมตร
"ทักษิณ" กับเครื่องบินหรู 2.6 พันล้านบาท
ข้อมูลจากเพจ CSI LA แชร์เรื่องเครื่องบินส่วนตัว Bombardier Global 7500 ของนายทักษิณ ลำนี้คือ สุดยอดแห่งความหรูหราของเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ราคาซื้อขายเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 2.6 พันล้านบาท หรือราว ๆ 75-80 ล้านเหรียญสหรัฐ
ค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายรายปีตกอีกหลายร้อยล้านบาท บ่งบอกถึงสถานภาพทางการเงินที่คล่องตัว มี 4 โซนหลัก
ห้องนั่งเล่น มีโซฟายาว สามารถนั่งดูโทรทัศน์ได้ สบาย ๆ รองรับได้ 3-4 คน ด้านหนังมีหน้าต่างให้ชมวิวสวย ๆ เสพบรรยากาศเพลิน ๆ บนน่านฟ้า
นอกจากนี้ ยังมีห้องประชุม ห้องกินข้าว ห้องเอนเตอร์เทนเมนต์ ห้องนอนส่วนตัว พร้อมเตียงและห้องน้ำในตัว สำหรับที่นั่งนุ่ม ๆ ดีไซน์พิเศษ รองรับสรีระผู้นั่งสบาย ๆ
เครื่องบินลำนี้ มีห้องครัวใหญ่ พร้อมอุปกรณ์ทำอาหารเต็มรูปแบบ จาน ชาม ช้อน สุดหรู เป็นประสบการณ์สุดล้ำ สำหรับคนมีฐานะ นั่งกินข้าวบนอากาศ
ส่วนไฟและระบบฟอกอากาศอัจฉริยะ ลดอาการ jet lag ได้ด้วย แถมยังมีหน้าต่างบานใหญ่ทุกที่นั่ง มองวิวได้เต็มตา
ระหว่างติดต่อสนามบินที่ดูไบ นักบินจึงบินวนอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งได้รับอนุญาต นักบินจึงหันหัวไปลงที่สนามบินดูไบ
"ทักษิณ ชินวัตร" อาจไม่กลับไทย
มุมมองนักวิชาการส่วนใหญ่ ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การที่ นายทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศครั้งนี้ อาจจะไม่กลับไทยอีก
อาจารย์ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ มองว่า การที่ นายทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศเมื่อวานนี้ เป็นสัญญาณว่า วันนี้ พรรคเพื่อไทย ยกธงขาว ศึกชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีโอกาสชิงตำแหน่งนายกฯ ได้ นายทักษิณ ประเมินสถานการณ์การเมืองในตอนนี้ ว่าตัวเองมีความเสี่ยงทางการเมืองขั้นสูงสุดจากปัจจัยต่าง ๆ ในการเดินทางออกนอกประเทศครั้งนี้ มีโอกาสสูงที่นายทักษิณจะไม่เดินทางกลับมา เพราะเมื่อคืนมีการปล่อยข่าวว่า ไปสิงคโปร์หาหมอ แต่ที่สุดแล้ว เดินทางไปดูไบ เป็นการให้ข้อมูลเท็จตั้งแต่ต้น
ส่วนวันที่ 9 กันยายนนี้ ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำตัดสินคดีรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ อาจารย์ศิโรตม์ มองว่า มีโอกาสสูงมาก ที่ นายทักษิณ จะไม่ได้เดินทางกลับมา
แต่ก็มีโอกาส 70% ที่จะไม่กลับมา ส่วนอีก 30% ที่เหลือ อยู่ที่ว่าระหว่างการเจรจาจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นหรือไม่ แต่โอกาสนี้ยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคเพื่อไทยหลุดจากการเป็นรัฐบาล
การเคลื่อนไหวของนายทักษิณในครั้งนี้ ส่งผลต่อพรรคเพื่อไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีโอกาสที่ สส.ในพรรค จะทยอยออกไปพรรคอื่นมากขึ้น และตอนนี้มีสัญญาณการเจรจาแล้วด้วย
ขณะที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรังสิต มองว่าในภาวะหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ การที่ นายทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาฟังคำพิพากษาคดีชั้น 14 ในวันที่ 9 กันยายนนี้หรือไม่ ก็อาจจะตีความได้ว่า ยอมหมอบเปิดทางให้ พรรคภูมิใจไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งอาจทำให้คนที่สนับสนุน พรรคเพื่อไทย รู้สึกเคว้งคว้าง ในเมื่อคนที่อิทธิพลอาจไม่อยู่ต่อสู้ด้วย
นอกจากนี้ อาจารย์วันวิชิต ยังบอกว่า หาก นายทักษิณ กลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในวันที่ 9 ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรแต่ก็จะได้ใจคนที่สนับสนุน นายทักษิณ มากกว่า แต่หากผลเป็นลบ คุณทักษิณรับสภาพไม่นาน เดี๋ยวก็พระราชทานอภัยโทษ ไม่ต้องหนี ไปตลอดชีวิต แถมยังเป็นฮีโรของกลุ่มคนเสื้อแดงอีก
ขณะที่ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟสบุ๊กสรุปใจความสำคัญ ได้ว่า "นายทักษิณ เป็นนักการเมืองที่ยึดแต่ชัยชนะ ไม่สนถูกผิด ใช้อำนาจเกินกฎหมาย พยายามจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จจึงหาทางยุบสภา แต่ถูกกฤษฎีกาปฏิเสธ แล้วก็ยังใช้เล่ห์กลต่าง ๆ จนท้ายที่สุดไม่สามารถคุมอำนาจรัฐได้ จึงอ้างไปตรวจสุขภาพที่สิงคโปร์ แต่ไปลงที่ดูไบแทน และยังโพสต์โซเชียลแก้ตัวว่าจะกลับมาไทยขึ้นศาลวันที่ 9 กันยายน สรุปว่าพฤติกรรมเช่นนี้ เป็นบทเรียนให้นักการเมืองคนอื่น และเชื่อว่าครั้งนี้ ทักษิณ อาจหนีไปจริง ๆ และไม่น่ากลับมาตามที่ประกาศไว้"
ขอบคุณภาพจาก : Facebook ลุงกัปตัน พาบิน พากิน พาเที่ยว, CSI LA