แม่ทัพภาคที่ 2 บรรยาพิเศษโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ลั่น "ความหวังประเทศอยู่ที่พวกเธอ เป็นคนเก่งต้องมีคุณธรรม" ก่อนเจอคำถามเด็กมัธยมฯ "อะไรที่ทำให้กัมพูชากล้ารุกรานอำนาจอธิปไตยของไทย?" - "เหตุการปะทะจะเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ที่จะเกิดขึ้นในอาเซียนหรือไม่"
วันนี้ (5 ก.ย. 68) พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมาโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เพื่อรับมอบสิ่งของ และพลาสติกอย่างหนาขนาด 200 ไมครอน และสแลนดำอย่างหนา เพื่อนำไปทับพลาสติกใช้กันแสงไม่ให้ศัตรูมองเห็น
นอกจากนี้พลโท บุญสิน ยังทำการบรรยายพิเศษให้กับนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาทั้งสามระดับชั้นคือชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 -6 ภายใต้หัวข้อ “ความจริงจากประเทศไทย The truth from Thailand” นานกว่า 1 ชั่วโมง
ช่วงแรก พลโท บุญสิน ได้กล่าวบรรยายให้นักเรียนฟังว่า "คุณธรรมเป็นสิ่งสำคัญ เรียนเก่งแต่ไม่มีคุณธรรมอันตรายมาก เพราะจะใช้ความเก่งไปเอาเปรียบคนอื่น ถ้าคนอื่นโง่กว่า ก็จะใช้ความฉลาดที่ไม่มีคุณธรรมโกงกินบ้านเมือง และเอาเปรียบเพื่อนร่วมชีวิต เอาเปรียบเพื่อนที่อยู่ข้างๆ ไม่มีเมตตาในจิตใจไม่มีคุณธรรม นี่คือสิ่งที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาฯ จะปลูกฝังน้องๆ ในห้วงเวลา 3 ปีที่อยู่ที่นี่
แม่ทัพรู้สึกภูมิใจที่พวกเธอได้นั่งเรียนอยู่ตรงนี้ แม่ทัพขอฝากความหวังนี้ไว้ให้กับพวกเธอ ส่วนหนึ่งของประเทศไทยที่พวกเธอต้องออกไปขับเคลื่อน โอกาสข้างหน้าเป็นอะไรก็ได้ที่พวกเราถนัด ไม่ต้องไปเลียนแบบเพื่อน จบออกไปไปทำมาค้าขายก็ได้ ไปเป็นคุณหมอก็ได้ ไปเป็นทหารก็ได้ แล้วแต่เราถนัดไปทำสิ่งที่เราถนัดคือช่วยประเทศชาติ
ลุงแม่ทัพใส่ชุดนี้ (ชุดทหารลายพราง) เป็นชุดที่ภูมิใจที่สุด เพราะลูกน้องลุงแม่ทัพบาดเจ็บชุดนี้ลูกน้องเสียชีวิตชุดนี้ และชุดนี้มีสามสี 5 แถบ (ธงชาติไทย) ไม่เคยปกปิดผืนธงนี้ แม้ว่าการเข้าสู่สนามรบตอนกลางคืนจะสะท้อนแสงข้าศึกมองเห็นบ้าง แต่นี่คือแผ่นดิน ข้าศึกจะยิงก็ยิงมา พวกเราต้องภูมิใจและรักษาไว้ทั้ง 3 สีนี้
ต่อไปในภายภาคหน้าคุณครูที่นั่งอยู่ข้างหน้าเรารวมถึงลุงแม่ทัพหมดแรงแล้ว พวกเธอทั้งนั้นที่จะรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะบรรพบุรุษเราได้คิดดีแล้วว่า 3 สิ่งนี้ต้องอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ฝากพวกเธอทำหน้าที่ให้ดี แผ่นดินนี้จะอยู่กับพวกเราตลอดไป
หลังจากนั้นเป็นช่วงเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ถามคำถามแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีนักเรียนคนหนึ่งถามถึงความเป็นไปได้ในการล้อมรั้วและการสร้างกำแพงแนวชายแดน
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า คำถามนี้คนไทยทั้งประเทศต้องการที่จะสร้างให้เช่นกัน ทำได้ครับ ลุงแม่ทัพเป็นส่วนหนึ่งที่มีแนวคิดที่จะทำ แต่จุดที่จะทำได้ก่อนคือพื้นที่ที่มีความเห็นตรงกันว่าแผ่นดินตรงนี้เป็นของไทย และส่วนไหนเป็นของกัมพูชา เห็นตรงกันแล้วทำรั้วได้เลย ซึ่งผู้ที่จะเห็นชอบในการสร้างรั้วก็คือรัฐบาล เพราะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นเรื่องของระหว่างประเทศ กองทัพฯ หนุนให้สร้าง เพราะการสร้างรั้วเป็นการป้องกันสิ่งไม่ดีที่จะเข้ามาหาเรา หรือสิ่งไม่ดีจากเราไปหาเขา
นอกจากนี้ยังมีคำถามจากนักเรียนอีกว่า "อะไรที่ทำให้กัมพูชากล้ารุกรานอำนาจอธิปไตยของไทย?"
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า " มันเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศกัมพูชา ที่ต้องการหาเรื่องเพื่อสร้างภาพให้ประชาชน-สมาคมชาวโลกให้เข้าใจว่าเราไปรังแกกัมพูชา แล้วให้ต่างชาติมารุมตำหนิไทย แล้วยกปัญหาเขตแดนนี้ไปให้ประเทศมหาอำนาจตัดสินว่าแผ่นดินนี้เป็นของกัมพูชา ตามแผนที่ ที่เขามี ซึ่งไม่รู้แผนที่อะไร เขาอ้างว่าฝรั่งเศสทำบ้าง อ้างว่าประเทศไทยล้ำเข้าไปบ้าง แน่นอนสมัยอดีตกัมพูชา เป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส เขาจึงขีดเส้นไป แต่ก็ไม่รู้ว่าแผนที่ฉบับนั้นจริงหรือปลอม วันดีคืนดีก็บอกว่าประเทศไทยล้ำแดนเขา
ก่อนหน้าลุงแม่ทัพไปพูดกับน้องๆ ไว้ว่า "แผ่นดินกูอยู่ตรงนี้มานานแล้ว ถ้าอยากได้ก็มาดวลกัน" นี่เป็นคำพูดที่ลุงแม่ทัพได้พูดไว้ เพราะฉะนั้นพวกเราจะต้องยืนหยัดในหลักฐานที่เรามี คือแผนที่ 1 ต่อ 50,000 ที่เรามีเท่านั้น และอยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้นเลยไม่มีถอย เรื่องนี้เรามีไม่ยอม เรารู้ว่าเขาทำเพื่ออะไร มันมีผลประโยชน์ของประเทศกัมพูชาลึกๆ เพื่อเอาตรงนี้ไปจุดประกายให้เกิดนำไปสู่เวทีโลก ซึ่งเขาคิดว่าเขาจะได้เปรียบ แต่เราก็รู้ทันหมดปัจจุบันเราไม่ยอมรับเรื่องพวกนั้นทั้งหมด ก็อยู่กันอย่างนี้แหละถ้าล้ำมาก็ยิงกันอย่างเดียว ถ้าคุณต้องการสงบก็คุยกัน ถ้าไม่ต้องการก็ดวลกัน
นอกจากนี้ยังมีคำถามจากนักเรียนที่ถามว่า "เหตุการปะทะจะเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ที่จะเกิดขึ้นในอาเซียนหรือไม่"
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า "ปฏิกิริยาลูกโซ่จะเกิดหรือไม่ เกิดขึ้นอยู่กับผู้นำของทั้งสองประเทศ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเขาเป็นคนเริ่มต้นหมด ตั้งแต่เผาศาลาตรีมุข มาขุดหลุมเพลาะในประเทศไทย และยื่นต่อเวทีโลกว่าเรากลั่นแกล้งเริ่มก่อน
ลุงแม่ทัพสะกิดใจตั้งแต่เผาศาลาตรีมุข ว่าเผาเพื่ออะไร สักพักก็เข้ามาขุดหลุมเพลาะล้ำเขตแดน 150 เมตร มาขุดเพื่ออะไรแล้วนำกำลังมาวางอีก "ในศักดิ์ศรีความเป็นทหารมันไม่ให้เกียรติเรา มึงก็ทหารกูก็ทหารทำไมไม่คุยกันดี ๆ แม่ทัพเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ก็ไม่ยอม เรามีศักดิ์ศรีทหารไทยถึงเวลาหนึ่งมันหยามศักดิ์ศรีก็ไม่ยอม เป็นเหตุการณ์แรกที่แม่ทัพรับตำแหน่ง แล้วเขมรล้ำเข้ามาเห็นๆ คือจุดนี้ และลุงแม่ทัพไม่ยอม
ก่อนปิดด่านก็ถูกตำหนิว่าทุบหม้อข้าวเขา เมื่อกัมพูชาอ้างว่าถอนกำลัง ก็ให้ลูกน้องไปดูว่าถอนจริงไหมกลับพบว่า ลูกน้องเราถูกยิงเราก็สวนกลับ เขาก็บอกว่าเขาตายหนึ่งเราก็ถอนกลับ
หลังจากนั้นก็บอกว่าเราไปรุกรานเขาก่อน ด้วยความเจ้าเล่ห์ด้วยความเป็นข่าวปลอมให้เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่เราก็มีพยานมีหลักฐาน เราไปเจรจาให้ออกเราไม่ได้ไปตีให้ออก แต่ถ้าเราเข้าตีทั้งหมดในหลุมเพลาะทั้งหมดไม่เหลือเห็นแต่ต่อ ใจเราก็ยืนยันที่ยังไม่ตี
จากนั้นก็มีเหตุการณ์ที่ปราสาทตาเมือนธม ที่วัยรุ่นจะนัดมาตีกัน จึงตัดสินใจปิดปราสาทตาเมือนธม เหมือนปิดประเทศกัมพูชาไม่ให้เข้ามา จึงตัดสินใจวันที่ 24 ก.ค. 68 ปิดเลย จากนั้นก็ปะทะกัน 4 คืน 5 วัน ทวงแผ่นดินคืนมาได้เท่านี้
หน้าหนาวชวนน้องน้องไปวิ่งเทรลที่ภูมะเขือ แผ่นดินไทยที่เขามาอยู่ถึงเวลาก็ต้องออกไป จะพาพวกเราไปดูเสาธงชาติที่สวยที่สุด มองไปเห็นเขาพระวิหาร
พูดไปก็น้ำตาตกในเขาพระวิหารครั้งหนึ่งเคยเป็นของคนไทยแต่ไม่เป็นไรมันคืออดีต แต่ ณ ตอนนี้พี่ ๆ น้อง ๆ ทหารเขาได้ทำหน้าที่ที่ดีที่สุดแล้วในห้วงเวลาที่มีอยู่ และจะทำอีกถ้ามีโอกาส ยืนยันจะทำเด็ดขาดรุนแรงแน่นอนถ้ามีโอกาส แต่ ณ เวลานี้หยุดยิงชั่วคราวก่อน
ถามว่าจะเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่อย่างที่น้องถามไหม "ไม่เป็น" เพราะทั่วโลกเขารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นใครโกหก ใครขัดอนุสัญญาว่าด้วยการใช้กับระเบิดทุ่นระเบิดหรือ "ออตตาวา"