อนุทิน ยิ้มแย้มเข้ารัฐสภา โหวตนายกฯ

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตอนนี้ทุกคนคงรู้กันแล้วว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะได้เป็นนายกฯ คนที่ 32 ไปไล่เรียงเหตุการณ์ก่อนจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เรียกว่าทั้ง 2 ฝ่าย ถกเถียงกันอยู่นาน ส่วน นายอนุทิน ถูกสื่อจับจ้องรุมล้อมตั้งแต่เดินเข้าสภาช่วงเช้า

เรียกว่าทันทีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางมาถึงอาคารรัฐสภา สื่อพามารุมล้อมเรียก นายอนุทิน ว่า ท่านนายกฯ แม้จะโดนเบียด แต่ นายอนุทิน ยังยิ้มแย้มบอกว่า ก่อนเดินทางมาสภาฯ ได้ไปไหว้พ่อแม่เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมพูดเพียงสั้น ๆ ว่า ขอให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ก่อนจะเดินเข้าประชุมสภา

ในการประชุมสภาฯ วาระแรกที่ประชุมได้ลงมติรับหลักร่างพระราชบัญญัติการรายงานและเปิดเผยข้อมูลการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ จากนั้นเวลา 09.40 น. นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.พรรคภูมิใจไทย เสนอญัตติให้เลื่อนวาระการโหวตให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาพิจารณาก่อน

แต่ นายวัชรพล ขาวขำ สส.พรรคเพื่อไทย เห็นแย้ง มองว่าการพิจารณาโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่สำคัญ จึงต้องมีเวลาให้สมาชิกได้ตัดสินใจ

ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นเสนอว่า จำเป็นต้องให้สมาชิกได้อภิปรายหารือถึงการเลื่อนวาระ ก่อนจะหลุดพูดผิดว่า "ตัวเองเป็นฝ่ายค้าน"

แต่เรื่องของ สส. พูดผิดยังไม่จบ ไม่รู้ว่า สส. ตื่นเต้นกันหรือเปล่า เพราะ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.พรรคกล้าธรรม ที่ชี้แจงเหตุผลที่ต้องการเลื่อนวาระพิจารณานายกฯ ขึ้นมาก่อน แต่ช่วงหนึ่ง นายอรรถกร พูดผิดอีกบอกว่าอยู่พรรคก้าวไกล เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนสมาชิกได้อีก

หลังจาก สส. ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างโต้เถียงกันไปมา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา จึงเปิดให้ฝ่ายที่เห็นว่าควรเลื่อน และฝ่ายที่เห็นว่าไม่ควรเลื่อนญัตติ อภิปรายฝ่ายละ 5 คน คนละ 5 นาที

ช่วงหนึ่ง พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายว่า การเลือกนายกฯ ครั้งนี้เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะมีข้อตกลงระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย เป็นข้อตกลงทางการเมืองที่บ่อนเซาะระบอบประชาธิปไตยและทำลายรัฐธรรมนูญ นี่คือ การครอบงำและแลกผลประโยชน์ เพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลและได้แก้รัฐธรรมนูญ

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวยืนยันต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ตนเองและพรรคภูมิใจไทยจะอยู่เป็นองค์ประชุมให้การประชุมทุกวาระในวันนี้ และในอนาคตให้สมกับเจตนารมณ์ของพวกเราทุกประการ

ระหว่างที่ นายไชยา ให้ นายอนุทิน ลุกขึ้นกล่าวยืนยันในที่ประชุม นายไชยา ได้เรียกนายอนุทินว่า "ว่าที่นายกฯ" ด้วย

จากนั้น เวลา 11.30 น. ที่ประชุมได้พิจารณาญัตติของพรรคภูมิใจไทยว่า จะเลื่อนระเบียบวาระการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีขึ้นมาพิจารณาก่อน หรือ คงไว้ตามระเบียบวาระเดิม

ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบกับการเลื่อนระเบียบวาระการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีขึ้นมาพิจารณาก่อน ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 313 เสียง ไม่เห็นชอบ 142 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 5 เสียง

หลังจากนั้นทั้ง 2 ฝ่าย ได้เสนอแคนดิเดตนายกฯ ให้สภาพิจารณาลงมติเลือกเป็นนายกฯ โดย นายไชยชนก ชิดชอบ สส.พรรคภูมิใจไทย เสนอชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ส่วน นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.พรรคเพื่อไทย ก็เสนอชื่อ นายชัยเกษม นิติศิริ

จากนั้นประธานสภาฯ ได้เปิดให้สมาชิกทั้ง 2 ฝ่าย อภิปรายคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกฯ โดยให้เวลาฝ่ายละ 1 ชั่วโมง จากนั้น ที่ประชุมได้ถกเถียงกันถึงระยะเวลาในการอภิปรายคุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 

โดย นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายตั้งข้อสังเกตว่า การได้มาซึ่งตำแหน่งนายกฯ ของ นายอนุทิน เต็มไปด้วยกระแสข่าวลือหนาหูว่า มีการใช้เงิน 1,500-2,000 ล้านบาท เพื่อซื้อเสียงโหวตสนับสนุน จึงท้าให้ นายอนุทิน ไปร่วมสาบานที่วัดพระแก้วว่าไม่มีการซื้อเสียง หากไม่บริสุทธิ์จริงก็ขอให้เกิดอันเป็นไปภายใน 7-9 วัน

หลังจากนั้น ช่วง 15.00 น. หลังเปิดอภิปรายคุณสมบัติ ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว จึงเข้าสู่กระบวนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี

ซึ่งเป็นการลงมติโดยเปิดเผย โดย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อ่านรายชื่อ สส. เพื่อให้ออกเสียงลงคะแนนเป็นรายบุคคล