ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยืนยันว่า หากมีการส่งกองกำลังทหารจากยุโรปหรือชาติอื่น ๆ เข้าไปประจำการในยูเครน จะถูกรัสเซียโจมตีแน่นอน
ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน เปิดใจในช่วงการเป็นเจ้าภาพการประชุม "อีสเทิร์น อีโคโนมิก ฟอรัม" (Eastern Economic Forum) ที่เมืองวลาดิสต็อก (Vladivostok) วันนี้ (5 ก.ย.) ว่า หากมีกองกำลังทหารจากยุโรปและชาติอื่น ๆ (กลุ่มพันธมิตรแห่งความเต็มใจ) เข้าไปประจำการในยูเครนช่วงที่กองทัพรัสเซียยังคงปฏิบัติการโจมตียูเครนอยู่ในปัจจุบัน แน่นอนว่ากองกำลังดังกล่าวย่อมตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีที่ชอบธรรมของรัสเซียตามไปด้วย
หากรัสเซียกับยูเครนบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอย่างถาวรแล้วจริง ๆ ก็ไม่เห็นความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องมีกองกำลังจากชาติอื่นช่วยรับประกันความปลอดภัยให้กับยูเครน เพราะถึงตอนนั้นรัสเซียจะปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างแน่นอน ที่ผ่านมาผู้นำยูเครนอ้างว่าอยากเจรจา แต่กลับตั้งข้อแม้เรื่องสถานที่จัดการเจรจา ทั้ง ๆ ที่รัสเซียรับรองความปลอดภัย 100% ให้กับผู้นำยูเครนหากเดินทางมาเจรจาหยุดยิงในกรุงมอสโก
แม้ประธานาธิบดีปูติน ไม่ได้แสดงความเห็นถึงเรื่องที่สหรัฐฯ ข่มขู่ประเทศที่ซื้อน้ำมันและพลังงานจากรัสเซียว่าจะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าอัตราสูงขึ้น เพื่อกดดันให้มีการหยุดยิง แต่เขากล่าวถึงโครงการความร่วมมือสร้างท่อส่งก๊าซจากไซบีเรียข้ามมองโกเลียไปยังจีน ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2573 ว่าเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะจีนจะได้ใช้ก๊าซราคาถูก ขณะที่รัสเซียก็ไม่ต้องพึ่งพาลูกค้าจากยุโรป