เช้านี้ที่หมอชิต - เริ่มนับ 1 แล้ว กับการแก้ไขปัญหาภายในประเทศของ นายกฯ หนู ประกาศภารกิจด่วน 4 ด้าน เดินหน้าทำงาน แม้จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย
แม้กรอบระยะเวลาการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ จะมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาแค่ 4 เดือน แต่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ก็ให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าจะมุ่งมั่นทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ไทยก้าวพ้นวิกฤตในหลาย ๆ ด้าน ที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะปัญหาเฉพาะหน้าที่เป็นภัยคุกคามและส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชน
1. ปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลจะดำเนินมาตรการลดรายจ่าย ค่าครองชีพ ค่าพลังงาน ค่าเดินทาง การแก้ปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกร การสร้างงาน สร้างอาชีพในชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นรากฐานของสังคมไทย
พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัวว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่มาจากโควตาคนนอก คือ นายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย และเคยเป็นประธานที่ปรึกษา นายพิชัย ชุณหวชิร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร โดยให้เหตุผลที่เชิญมาร่วมรัฐบาล เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องสานต่อ
ส่วนตัวของ นายวรภัค ก็ยอมรับว่า ในชีวิตนี้นี่เป็นครั้งแรกที่เดินทางเข้าพรรคการเมือง ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ได้มาช่วย นายพิชัย ในฐานะประธานที่ปรึกษา ทำให้เห็นปัญหาภายในประเทศหลายด้าน ทั้งหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน รายรับ-รายจ่ายของประเทศ
การตัดสินใจมาร่วมรัฐบาลนี้ เพราะเห็นว่า นายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจจริง โดยไม่เกี่ยงว่าเคยเป็นคนของรัฐบาลชุดที่แล้ว และส่วนตัวครอบครัวก็รู้จักกันมานานแล้ว เลยเต็มใจมาช่วยเพื่อสานต่องานให้เดินหน้าไปได้โดยไม่สะดุด
2. ปัญหาด้านความมั่นคงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลจะใช้แนวทางสันติภาพ ลดความสูญเสีย ยึดหลักการไทยจะต้องไม่เสียดินแดน หรือคนไทยต้องไม่เสียผลประโยชน์ การชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นต้องรวดเร็วและครอบคลุมทุกหลังคาเรือน
3. ปัญหาภัยธรรมชาติ รัฐบาลจะจัดทำระบบเตือนภัย ป้องกันภัย เยียวยาฟื้นฟู และระบบการชดเชยค่าเสียหายให้กับประชาชนผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที สมเหตุสมผล และเป็นธรรม
4. ปัญหาภัยสังคม รัฐบาลจะปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ สแกมเมอร์ การพนันทุกรูปแบบ ผ่านความร่วมมือกับเพื่อนบ้านและมิตรประเทศ
นายกรัฐมนตรี ให้ความมั่นใจว่า ด้วยประสบการณ์ และคณะรัฐมนตรีที่กำลังจะมาร่วมปฏิบัติหน้าที่ สามารถทำงานได้ทันที นับตั้งแต่วินาทีที่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยไม่ต้องใช้เวลาในการปรับตัวหรือทดลองงาน
ย้ำด้วยว่า รัฐบาลชุดนี้จะยึดมั่นในหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด และไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ไม่มีการกลั่นแกล้ง ยัดเยียด หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง
ดังนั้น ตลอดระยะเวลา 4 เดือนนี้ รัฐบาลจะไม่มีวันหยุด ไม่มีพักร้อน และจะไม่ยอมให้ความเจ็บป่วยหรือข้ออ้างใด ๆ มาขัดขวางการทำงาน เพื่อเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้ก้าวพ้นวิกฤตภายในเวลานี้ที่มีอยู่ พร้อมทั้งสร้างรากฐานที่มั่นคง เพื่อส่งมอบให้รัฐบาลชุดใหม่
รัฐบาลชุดนี้ ยังมีเป้าหมายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นตามกระบวนการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเร็ว ๆ นี้ และเมื่อถึงเวลานั้นก็จะยุบสภาผู้แทนราษฎรภายในกรอบระยะเวลา 4 เดือน ตามที่ได้มีข้อตกลงกับพรรคประชาชนไว้ เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนในการกำหนดอนาคตของประเทศต่อไป