เช้านี้ที่หมอชิต - เชื่อว่าเมื่อคืนนี้ คนไทยน่าจะเกือบทั่วประเทศยอมนอนดึก เพื่อเฝ้ารอชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ในรอบ 3 ปี ซึ่งมีหลายจังหวัดสมหวัง ส่วนจังหวัดไหนไม่สมหวัง เพราะฝนตกหนัก ท้องฟ้าปิด เราได้รวบรวมภาพบรรยากาศมาให้ดูกัน
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก อาตี๋ นครน่าน ได้บันทึกคลิปปรากฏการณ์จันทรุปราคา ที่เห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่าในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัว เวลา 22.28 น. คืนวันที่ 7 กันยายน กระทั่งเวลา 23.27 น. ดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามืดบางส่วน ช่วงที่เกิดคราสเต็มดวง ดวงจันทร์ปรากฏเป็นสีแดงอิฐ หรือที่เรียกกันว่า Blood Moon เวลา 00.31 น. ของวันที่ 8 กันยายน ซึ่งนี่เป็นภาพถ่ายขณะจันทรุปราคาเต็มดวง เห็นชัดเจนสวยงาม บริเวณอุทยานดาราศาสตร์สิริธน จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ ดวงจันทร์เต็มดวงเคลื่อนเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลก หรือบดบังมากที่สุด เวลา 01.12 น. มีประชาชนจากหลายจังหวัด ไม่พลาดถ่ายภาพมาแชร์ให้คนที่ไม่ได้เห็น ได้ชมกันในเพจเฟซบุ๊กสมาคมดาราศาสตร์ไทย ส่วนใหญ่ทางภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ เห็นเกือบหมด ก่อนจันทรุปราคาเต็มดวงจะสิ้นสุดในเวลา 01.53 น.
เพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ อธิบายแบบวิทยาศาสตร์ว่า เมื่อดวงจันทร์เข้าไปอยู่ในเงามืดของโลกแล้ว ทำไมไม่มืดหายไปจากท้องฟ้า แต่กลับกลายเป็นสีแดงอิฐ เป็นเพราะขณะเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง ดวงจันทร์จะโคจรเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลก แต่เงาของโลกไม่ได้มืดสนิท ยังมีแสงอาทิตย์ที่ส่องมากระทบโลก ทำให้เกิดเงาของโลกทอดยาวไปในอวกาศยาวไปถึงดวงจันทร์
แต่ก่อนถึงดวงจันทร์ แสงเหล่านี้ต้องเดินทางผ่านชั้นบรรยากาศโลก ซึ่งเปรียบเสมือนฟิลเตอร์กรองแสงขนาดยักษ์ ส่งผลให้แสงบางส่วนเกิดการกระเจิงและหักเห ซึ่งแสงอาทิตย์เป็นแสงขาว ประกอบด้วยสเปกตรัมทั้ง 7 สี ได้แก่ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้ม และแดง แสงที่มีความยาวคลื่นสั้น เช่น น้ำเงิน ฟ้า เขียว จะถูกกรองออกไป เหลือเพียงแสงสีแดงที่มีความยาวคลื่นยาวกว่า หักเหเข้าไปในเงามืดของโลก เมื่อแสงสีแดงตกกระทบพื้นผิวดวงจันทร์ แล้วสะท้อนกลับมายังโลก จึงเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงอิฐในช่วงเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง
