วันนี้ (8 ก.ย. 68) เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.หนองไทร ได้นำตัว นางเกษร อายุ 47 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 4 ต.หนองไทร อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พร้อมซากงูกะปะ ส่งโรงพยาบาลนางรอง หลังจากถูกงูกะปะฉกแขนขณะเข้าป่าหาเก็บเห็ดไปขายหารายได้เสริม
นางเกษร บอกว่า ช่วงเช้ามืดตนไปหาเก็บเห็ดที่เขาบ้านโคกสง่า ต.หนองไทร เพื่อนำไปขาย ขณะที่กำลังสาละวนก้มเก็บเห็ดได้ประมาณครึ่งตะกร้า จู่ ๆ มีงูไม่รู้ว่ามาจากไหนฉกบริเวณข้อมือขวา ทั้ง ๆ ที่ตนก็มองแล้วตรงนั้นไม่มีใบไม้รก เป็นที่โล่ง จากนั้นได้เอาไม้ตีงูตัวดังกล่าวเอาใส่ถุงพลาสติก แล้วรีบขี่รถจักรยานยนต์มายังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองไทร และถูกส่งต่อมายังโรงพยาบาลนางรอง ซึ่งช่วงหาเห็ดตนระมัดระวังตลอด เพราะเมื่อวาน (7 ก.ย. 68) ทราบข่าวมีชาวบ้านหาเห็ดถูกงูกะปะฉก ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลนางรอง แต่ไม่คิดว่าตนจะโดนงูกัดไปด้วยเหมือนในข่าว
ด้าน นางแฉล้ม อายุ 62 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.ทรัพย์พระยา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถูกงูกะปะฉกเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา ขณะไปหาเก็บเห็ด โดยแพทย์ได้ให้พักฟื้นเพื่อดูอาการที่โรงพยาบาลนางรอง ได้เดินมาทักทาย นางเกษร สอบถามอาการและเล่าเรื่องงูกะปะที่ฉก ซึ่ง นางเกษร ก็บอกว่าเมื่อวานก็ดูข่าว นางแฉล้ม ที่ถูกงูฉก ได้คุยกันกับชาวบ้านให้ระมัดระวังเวลาออกไปเก็บเห็ด ซึ่งต่อไปนี้เวลาออกหาเก็บเห็ดอาจต้องใส่เสื้อแขนยาว หรือสวมถุงมือยาวเพื่อป้องกันอันตรายจากงู
ขณะที่ พญ.พิไลพรรณ เรืองโชติเสถียร แพทย์โรงพยาบาลนางรอง กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นฤดูฝน ทำให้มีเห็ดหลาย ๆ ชนิดออกดอกเยอะตามป่า ประกอบกับชาวบ้านมักชอบไปหาเก็บเห็ด เพื่อนำไปขายหรือประกอบอาหาร ถ้าเกิดถูกงูฉก อันดับแรกขอให้ตั้งสติแล้วใช้เชือกรัดเหนือบาดแผลที่ถูกงูฉก ห้ามใช้ปากดูดพิษงูเองเป็นอันขาด ถ้ามีซากงูมาได้ด้วยยิ่งดี เพราะแพทย์จะได้ทราบชนิดงูที่ฉก ซี่งสามารถทำการวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็ว แล้วรีบมาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด โดยเฉพาะช่วงนี้มีชาวบ้านที่ไปหาเห็ดถูกงูกะปะฉกมารักษาที่โรงพยาบาลนางรอง แล้วถึง 3 คน ภายในห้วง 1 สัปดาห์ โดยงูกะปะจะเป็นงูที่มีพิษต่อระบบเลือด
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ ยังมุ่งมั่นเข้าป่าไปเก็บเห็ด แม้จะมีข่าวคนถูกงูกะปะฉกขณะไปหาเก็บเห็ด เพราะรายได้ดี เก็บเห็ดขายได้วันละ 1,000 – 2,000 บาท