ขับพ้นแผ่นดินไทย เมีย จนท.ป่าไม้ ที่เชื่อว่าเป็นไส้ศึกเขมร

ขับพ้นแผ่นดินไทย เมีย จนท.ป่าไม้ ที่เชื่อว่าเป็นไส้ศึกเขมร

View icon 4.0K
วันที่ 8 ก.ย. 2568 | 16.25 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชาวบ้านชายแดนเฮ ! มติที่ประชุม ให้ขับหญิงกัมพูชา เมียเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่เชื่อว่าเป็นไส้ศึกให้เขมร และลูกหลาน รวม 7 คน ออกจากแผ่นดินไทย เพราะวีซาขาดอายุ และหลบหนีเข้าเมือง

วันที่ 8 กันยายน 2568 ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลไพรพัฒนา เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันจังหวัดศรีสะเกษ, ปกครองอำเภอภูสิงห์, ตรวจคนเข้าเมืองศรีสะเกษ ด่านช่องสะงำ สันติบาลจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ  ทหาร ประชุมสรุปผลการตรวจสอบนางเขื่อน หญิงชาวกัมพูชา ที่ได้สามีเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พนมดงรัก อำเภอภูสิงห์ กรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนให้ตรวจสอบ หลังทำตัวเป็นไส้ศึก ถ่ายรูป แชร์ข้อมูลที่กัมพูชาใส่ร้ายทหาร และประเทศไทย อันเป็นตรายต่อชุมชน หมู่บ้าน ทหาร และตำรวจ ตชด.ในพื้นที่ที่ดูแลอธิปไตยของไทย ขณะที่กำลังประชุมพิจารณากรณีนางเขื่อน ได้มีกลุ่มชาวบ้านแชรไปร กว่า 200 คน ได้มายืนถือป้าย เรียกร้องให้เอาผิดนางเขื่อง และให้ขับไล่ออกจากประเทศไทยไป

ในการประชุม ได้มีผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และผู้นำชุมชน เข้าประชุม ร่วมกับนางเขื่อน และสามี ได้มาร่วมให้ข้อมูลต่อหน้าเจ้าหน้าที่ทุกคน พร้อมกับยื่นเอกสารการเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งพบว่าพาสปอร์ตถูกต้องตามกฎหมาย แต่วีซาขาดอายุ ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2566 จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นนางเขื่อน จะไม่สามารถอยู่ในประเทศไทยได้อีกต่อไป ส่วนเรื่องการโพสข้อความอันเป็นเท็จ เบื้องต้นในการตรวจสอบมือถือนางเขื่อน พบว่า มีเพียง 2 – 3 ครั้ง ที่นำเอาภาพการวางระเบิดของทหารกัมพูชา ที่ปลอมเป็นทหารไทย มาวางระเบิด พร้อมพูดอธิบายเป็นภาษาเขมร ใจความว่า ทหารไทยวางระเบิดเอง และก็มาเหยียบระเบิดเอง แต่กลับไปกล่าวหาทหารกัมพูชา อื่น ๆ ในลักษณะนี้เป็นต้น เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประชุม 2 ชั่วโมง จึงสรุปการพิจารณา นำมาแจ้งแก่ชาวบ้านที่มาถือป้าย รอฟังผลสรุป สุดท้าย ตม.แจ้งผลการพิจารรา เป็นที่พอใจ แยกย้ายเดินทางกลับ

โดย พ.ต.ท. หญิง มณีพร บุญเลี้ยง สารวัตรตรวจคนเข้าเมือง ( ตม.) เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านแซรไปร กรณีคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และกระทำความผิด ที่เชื่อว่าเป็นไส้ศึกไทย แชร์ภาพข่าวอันเป็นเท็จ ใส่ร้ายประเทศไทย เป็นภัยต่อคนไทย และสังคมไทยนั้น เบื้องต้นตรวจสอบสวนแล้ว พบว่า เป็นคนหลบหนีเข้าเมือง 5 คน อยู่ในราชอาญาจักรไทย เกินกว่ากำหนด จำนวน 2 รวมทั้งหมด 7 คน จะได้นำตัวไปลงบันทึกการจับกุม ที่สถานีตำรวจภูธรภูสิงห์ ส่งฟ้องศาล และผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตม.ด่านช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ ได้นำนางเขื่อน พร้อมกับลูกชาย ลูกสาว และหลาน รวม 7 คน มาที่สถานีตำรวจภูธรภูสิงห์ เพื่อลงบันทึกการจับกุม สอบสวน บุคคลทั้ง 7 คน โดยแยกแจ้งข้อหา คือ อยู่อาศัยในราชอาญาจักรไทย เกินกว่ากำหนด ใบอนุญาตสิ้นสุด 8 พฤษภาคม 2566 จำนวน 2 ราย คือตัวนางเขื่อน พร้อมลูกสาว 1 คน และคดีหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 5 ราย แม่นางเขื่อน, น้องชายนางเขื่อน, ลูกชายนางเขื่อน ลูกเขยนางเขื่อน และลูกสาวนางเขื่อน สอบสวนเตรียมส่งตัวฟ้องสาล ผลักดันออกนอกประเทศไทยต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง