หนุ่มกัมพูชา โดนรุมยับ! ลวงเด็กสาว 16 เข้าม่านรูด

หนุ่มกัมพูชา โดนรุมยับ! ลวงเด็กสาว 16 เข้าม่านรูด

View icon 1.1K
วันที่ 9 ก.ย. 2568 | 08.29 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หนุ่มกัมพูชา อ้างเป็นเทรนเนอร์ครูมวย ลวงเด็กสาววัย 16 ปี เข้าโรงแรมม่านรูด บังคับร่วมหลับนอน-แอบถ่ายคลิป สุดท้าย เด็กโทรตามเพื่อนของแม่ ให้มาช่วย เลยโดนรุมยับกลางซอย

9 ก.ย. 68 เมื่อเวลา 01.40 น. ได้มีชายหนุ่ม อายุ 36 ปี สัญชาติกัมพูชา เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.กิตติพงษ์ แถลงกัน รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ว่า ถูกกลุ่มชายไทยขี่รถจักรยานยนต์ ประมาณ 4–5 คน มารุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและแขนซ้าย เหตุเกิดภายใน ซอยโสภณ พัทยากลาง

โดย ชายชาวกัมพูชาย อ้างว่า รู้จักกับหญิงไทยวัยรุ่นผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งภายหลังทราบว่าเป็น น.ส.น้อย (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี โดยหลอกล่อว่าจะสอนมวยให้ และนัดเจอกันที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งย่านพัทยาเหนือ เมื่อเข้าไปในห้อง ทั้งคู่มีเพศสัมพันธ์กัน และตนได้แอบถ่ายคลิปไว้ ต่อมาหญิงสาวบังคับให้ลบ ตนจึงลบให้ จากนั้นขับรถจักรยานยนต์ออกมา พอถึงซอยโสภณ พัทยากลาง มีกลุ่มชายไทยหลายคนขับรถจักรยานยนต์ตามมาประมาณ 3 คัน ก่อนเรียกให้จอดแล้วรุมทำร้ายจนบาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบโรงแรมม่านรูดดังกล่าว พนักงานยืนยันว่าช่วงเวลา 21.00 น. มีชายมาเปิดห้องกับหญิงสาวจริง ระหว่างจะออกจากห้อง มีรถกระบะสีดำขับวนเวียนในโรงแรม ก่อนออกไปจอดหน้าโรงแรมและพูดคุยกับหญิงสาวและชายที่มาเปิดห้อง จากนั้นเห็นมีกลุ่มรถจักรยานยนต์ขี่ตามไป แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

ต่อมา น.ส.น้อย อายุ 16 ปี พร้อมแม่และเพื่อนชายที่ก่อเหตุ เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความกล่าวหา ชายชาวกัมพูคนดังกล่าว ว่า ได้แอบถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์ โดยตำรวจได้ทำหนังสือส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ และรอสอบปากคำต่อหน้า นักสังคมสงเคราะห์และสหวิชาชีพ

น.ส.น้อย ให้การว่า รู้จักผู้ก่อเหตุผ่านแอปฯ ถูกอ้างว่าเป็น เทรนเนอร์ครูสอนมวย จึงนัดให้มาเจอที่โรงแรม แต่กลับถูกบังคับร่วมหลับนอน 2 ครั้ง ซึ่งครั้งที่ 2 ตนปฏิเสธ แล้วพบว่ามีการใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่ายคลิป จึงติดต่อเพื่อนของแม่ให้ช่วยมาเคลียร์ แต่เมื่อกลุ่มเพื่อนของแม่ทราบเรื่องก็ไม่พอใจ จึงติดตามไป และรุมทำร้ายชายชาวกัมพูชารายนี้จนได้รับบาดเจ็บ

ด้าน ชายชาวกัมพูชาคนดังกล่าว ได้รีบเดินออกจากโรงพักและหลบหนีไป โดยไม่รอให้การ และไม่เข้ารักษาบาดแผลที่โรงพยาบาล ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และรอสอบปากคำผู้เสียหายต่อหน้า นักสังคมสงเคราะห์และสหวิชาชีพ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง