เมื่อเวลา 18.30 น. วานนี้ (8 ก.ย. 68) ศูนย์วิทยุตำรวจภูธรจังหวัดตราด ได้รับแจ้งมีคนจะผูกคอ ภายในซอยบุตรน้อย ต.บางพระ อ.เมือง จ.ตราด หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราด และสมาคมตราดพุทธสงเคราะห์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตราด เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ บริเวณชั้น 2 ของบ้าน พบว่าประตูห้องล็อกอยู่ ด้านในได้ยินเสียงคนร้องไห้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องพูดคุยไกล่เกลี่ยจนยอมเปิดประตู พบหญิง 1 คน คือ นางอมรรัตน์ อายุ 58 ปี นอนร้องไห้อยู่ ภายในมือมีเชือกไนล่อนอยู่ 1 เส้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามเอาเชือกออกห่าง แต่ระหว่างนั้น นางอมรรัตน์ คว้าเชือกมาทำท่ารัดกับคอ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันแย่งเชือกออกมา นางอมรรัตน์ได้ร้องไห้โฮเสียงดัง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยจนนางอมรรัตน์ใจเย็นลง หลังจากนี้จะประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตราด เพื่อติดตามอาการและเข้ามาช่วยเหลือนางอมรรัตน์
จากการตรวจสอบในโทรศัพท์ของนางอมรรัตน์ พบว่ามีการสนทนาพูดคุยกับชายรายหนึ่ง ซึ่งบทสนทนาส่วนใหญ่ฝ่ายชายมีการพูดคุยหว่านล้อม เชิงชู้สาว บอกรัก บอกคิดถึง จนสุดท้ายหลอกให้ลงทุน และนางอมรรัตน์ ก็ยอมโอนเงินไปให้ ประมาณ 8 ครั้ง รวม 82,000 บาท และเหตุการณ์ดังกล่าว หลังนางอมรรัตน์ ทราบว่าถูกหลอก ก็พยายามผูกคอตายมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 6 ส.ค. เจ้าหน้าที่กู้ภัยดเข้าไปช่วยไว้ทัน จนวันที่ 8 ส.ค. นางอมรรัตน์ ได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองตราด กับ พ.ต.ต.สมบัติ แก้วมูลมุข พนักงานสอบสวน
ด้านพี่สะใภ้ของนางอมรรัตน์ เปิดเผยว่า นางอมรรัตน์เป็นหนี้อยู่ 80,000 กว่าบาท หลังถูกมิจฉาชีพหลอกลงทุน วันนี้หลานชายโทรศัพท์บอกว่าป้าเดินร้องไห้ขึ้นมาชั้น 2 ของบ้าน และล็อกประตูห้อง ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและมาดูนางอมรรัตน์ ที่บ้านดังกล่าว
นางอมรรัตน์ ที่พอจะให้รายละเอียดได้บอกว่าถูกมิจฉาชีพหลอกเกือบ 9 หมื่นบาท และเงินดังกล่าวตนต้องหยิบยืมเพื่อนมา แต่ที่ตนเครียดเพราะนัดคืนเงินเพื่อนแล้ว แต่ไม่มีเงินไปให้ อีกทั้งยังต้องเจอหน้าเพื่อนทุกวันทำให้เกิดความละอายใจและความเครียดที่ไม่รู้จะหาเงินมาจากไหน จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
