อิสราเอล ส่งเครื่องบินโปรยใบปลิวเตือนผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ รีบอพยพออกจากกาซาซิตี พร้อมขู่เตรียมยกระดับปฏิบัติการโจมตี รุนแรงยิ่งกว่า "พายุเฮอริเคน"
วันนี้ (9 ก.ย.) อิสราเอลส่งเครื่องบินโปรยใบปลิวเตือนให้ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ รีบอพยพออกจากเมืองกาซาซิตี ก่อนปฏิบัติการโจมตีครั้งใหม่ ซึ่งจะยกระดับความรุนแรงราวกับ "มหาพายุเฮอริเคน" หากกลุ่มฮามาสยังไม่ปล่อยตัวประกันที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมด สร้างความแตกตื่นให้กับผู้ลี้ภัยจำนวนมากที่จำต้องพาครอบครัวหนีลงมาทางใต้ ในขณะที่บางส่วนบอกว่าจะอยู่ในกาซาซิตีต่อไป เพราะไม่มีที่อื่นใดที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาอีกแล้ว
ก่อนหน้านี้ อิสราเอล ประกาศแผนยึดครองกาซาซิตี ที่มีประชากรราว 1 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลให้กองทัพอิสราเอล ยึดครองพื้นที่ในฉนวนกาซาได้หมด จากที่ครอบครองไว้แล้วราว 75% ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากนานาชาติ
โดย เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรี ได้เตือนให้ผู้ลี้ภัยรีบอพยพออกจากกาซาซิตีทันที พร้อมขู่ว่า การทำลายอาคารสูง 50 แห่ง ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น
อิสราเอล เข้าควบคุมฉนวนกาซาแล้ว 75% นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นด้วยการโจมตีข้ามพรมแดนของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 ราย และถูกจับเป็นตัวประกัน 251 ราย ตามการเปิดเผยของอิสราเอล ทางการอิสราเอลกล่าวว่าตัวประกัน 20 คนจาก 48 คน ที่เหลือในฉนวนกาซายังมีชีวิตอยู่
การโจมตีทางทหารในเวลาต่อมาของอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์ไปแล้วกว่า 62,000 ราย และทำให้ประชากรเกือบทั้งหมดต้องพลัดถิ่นภายในประเทศ และทำให้ดินแดนส่วนใหญ่พังทลาย