ข่าวภาคค่ำ - ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้บังคับโทษจำคุก นายทักษิณ ชินวัตร เป็นเวลา 1 ปี ในคดีพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
ศาลฎีกาฯ สั่งบังคับโทษ "ทักษิณ" จำคุก 1 ปี
ช่วงเช้า นายทักษิณ ชินวัตร ในชุดสูทเนคไทสีเหลือง เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พร้อมนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี, นางสาว พินทองธา คุณากรวงศ์ และนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี ก่อนจะเดินเข้าศาลฯ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ
องค์คณะผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ ใช้เวลาอ่านคำสั่งศาลฯ 1 ชั่วโมง มีมติเอกฉันท์ มีคำสั่งให้บังคับโทษจำคุก นายทักษิณ เป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากการบังคับโทษที่ผ่านมา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และนายทักษิณ ไม่ได้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน แต่เป็นโรคเรื้อรังที่รักษาตัวแบบผู้ป่วยนอกได้ โดยไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ
นายทักษิณ ยังปฏิเสธการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจ และโรคกระดูกคอ-กดทับไขสันหลัง และเส้นประสาท แต่ให้แพทย์รักษาโดยการรับประทานยาตามอาการ และเลือกรับการผ่าตัดนิ้วล็อก และเอ็นหัวไหล่ขวา ซึ่งไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ทำให้นายทักษิณได้รับประโยชน์จากการพักอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ต้องกลับไปถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
"อิ๊งค์" ยอมรับห่วง "ทักษิณ"
หลังฟังคำสั่งศาลฯ นางสาวแพทองธาร เดินออกมา กล่าวขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจให้ครอบครัว นายทักษิณ ยังคงเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณในเรื่องการเมือง และยังเป็นคนที่นึกถึงบ้านเมืองอยู่เสมอ ยอมรับว่า ตอนนี้ครอบครัวเป็นห่วง แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกภูมิใจที่ นายทักษิณ ได้สร้างประวัติศาสตร์มากมายในประเทศนี้ แต่วันนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ที่มีนายกรัฐมนตรี คนแรก ที่จะต้องถูกจำคุก
นางสาวแพทองธาร ยังโพสต์รูปถ่าย ขณะนั่งควงแขนถ่ายรูปคู่กับ นายทักษิณ ผ่านอินสตราแกรม พร้อมระบุข้อความสั้น ๆ ว่า "พ่อ"
"ทักษิณ" น้อมรับคำสั่งศาลฎีกาฯ
ขณะที่ นายทักษิณ ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า ขอน้อมรับและพร้อมเข้าสู่กระบวนการตามคำพิพากษา วันนี้ขอมองไปข้างหน้า ให้ทุกอย่างที่ผ่านมามีข้อยุติ ทั้งการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และความขัดแย้งใด ๆ อันเกิดขึ้น
ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนตลอดมา จากวันนี้แม้จะไร้อิสรภาพ แต่ยังมีเสรีภาพทางความคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน จะรักษาความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อใช้เวลาในชีวิตที่เหลืออยู่ รับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ แผ่นดินไทย และประชาชนคนไทย ไม่ว่าจะในสถานะใด
เปิดนาทีคุม "ทักษิณ" เข้าเรือนจำฯ
หลังจากศาลฎีกาฯ มีคำสั่งให้บังคับโทษจำคุก นายทักษิณ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัวขึ้นรถตู้ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทันที
กระทั่งช่วงเที่ยง รถตู้ของกรมราชทัณฑ์ ได้พาตัว นายทักษิณ มาถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ซึ่งตามขั้นตอนการดูแลผู้ต้องขังทั่วไป เจ้าหน้าที่จะจัดทำประวัติ ตรวจค้นสัมภาระ ตรวจสภาพร่างกาย อาการเจ็บป่วย และกักตัวเพื่อเฝ้าสังเกตเชื้อโควิด-19 เป็นเวลา 5 วัน เมื่อครบกำหนดแล้ว จึงจะแยกตัวเข้าสู่พื้นที่ชั้นในต่อไป
แต่ต่อมาเมื่อช่วงประมาณ 17.00 น. มีขบวนรถตู้ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นภายในรถ คือ นายทักษิณ สวมชุดสีฟ้า นั่งรถไปเพียงลำพัง ไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน แต่ชูนิ้วโป้ง แสดงสัญลักษณ์แทน
สำหรับการย้ายตัว นายทักษิณ จากเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพฯ ไปคุมขังที่เรือนจำกลางคลองเปรมนั้น เนื่องจากเป็นนักโทษเด็ดขาด คดีถึงที่สุดแล้ว ส่วนการสวมชุดสีฟ้า หมายถึง นักโทษคดีทั่วไป ไม่ได้มีอัตราโทษสูง หรือร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม นอกจากการบังคับโทษ นายทักษิณ แล้ว ยังต้องจับตาไปที่คดีในมือ ป.ป.ช. ที่ตั้งเรื่องสอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 12 คน ไว้ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเอื้อประโยชน์ให้ นายทักษิณ ไม่ต้องรับโทษ หรือไม่ รวมถึงตัว นายทักษิณ ในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำความผิดด้วย