ล้อมคอก ! กรมอุทยานแห่งชาติฯ สั่งสวนสัตว์ปิดโซนสัตว์ดุร้าย พร้อมทบทวนมาตรการดูแลความปลอดภัย ภายใน 2 วัน โทษสูงถึงยึดใบอนุญาต
วันนี้ ( 10 ก.ย.68 ) นายเฉลิม พุ่มไม้ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผย หลังพูดคุยกับคณะผู้บริหารสวนสัตว์ เป็นเวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง กรณีที่เกิดขึ้นในส่วนนี้ ทางกรมอุทยานฯ เข้ามาตรวจสอบรวมทั้งประเมินสถานการณ์ เบื้องต้นมีความเห็นว่า ทางสวนสัตว์ต้องพักการให้บริการบริเวณโซนจัดแสดงสัตว์ป่าดุร้ายระยะหนึ่ง และให้จัดทำแผน มาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวเจ้าหน้าที่และสัตว์ส่งให้ทางกรมพิจารณา เมื่อได้พิจารณาแล้วก็จะพิจารณาเรื่องการดำเนินการในระยะต่อไป ส่วนกรอบระยะเวลาอยู่ที่ทางสวนสัตว์ว่าจะส่งให้เมื่อไหร่แต่เบื้องต้นขอให้ทางสวนสัตว์ส่งแผนทบทวนมาตรการให้ทางกรมภายในสองวัน
สำหรับกฎเหล็ก 23 ข้อของทางสวนสัตว์ ทางกรมได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วแต่เมื่อเกิดปัญหาจึงมองว่าต้องมาทบทวนกัน เช่น การมีแนวเขตป้องกันระหว่างตัวสัตว์ นักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ ซึ่งมาตรการที่มีอยู่แล้วกำหนดให้ตัวนักท่องเที่ยวห้ามลงจากรถอยู่แล้ว ซึ่งในเรื่องดังกล่าวจะต้องมีการพิจารณาร่วมกัน เพราะจะต้องสร้างความปลอดภัย ให้กับเจ้าหน้าที่กับนักท่องเที่ยว ส่วนแนวระยะที่ปลอดภัย ต้องให้เจ้าหน้าที่พิจารณาอีกครั้งว่าควรมีระยะเท่าไหร่จึงเหมาะสม
ส่วนสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ลงจากรถอยู่ระหว่างการสอบสวน ขณะเดียวกันบริเวณโซนดังกล่าวก็ไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งอาจจะต้องมีการเพิ่มมาตรการดังกล่าวเข้าไป และที่ตั้งข้อสังเกตหนึ่งว่าเป็นความประมาทของ เจ้าหน้าที่นั้น อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของ พนักงานสอบสวน
สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า สิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่เพราะหิวหรือความเป็นอยู่ไม่เหมาะสมหรือไม่นั้น นายเฉลิม เผยว่า เป็นเรื่องสัญชาติตญาณสัตว์นักล่า สัตว์ผู้ล่าเมื่ออยู่ระยะตัวเต็มวัยมีสิ่งที่ผิดปกติหรือสิ่งมีชีวิตที่เข้ามาในพื้นที่มันก็จะแสดงสัญชาตญาณของนักล่า
สำหรับแนวทาง หรือการตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุเกิดจากได้อย่างไร ก็ตั้งข้อสังเกตหนึ่งว่าเป็นความประมาทของเจ้าหน้าที่ที่คิดว่าตัวเองมีความคุ้นเคยกับตัวสิงโต เลยทำให้ลงรถด้วยความประมาท แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งข้อควรระวังการดูแลสัตว์ผู้ล่า ไม่ควรหันหลัง ยิ่งคนที่ดูแลสิงโตเหล่านี้มานานยิ่งมีความคุ้นเคย หากหันหน้าให้สิงโต จะมีความปลอดภัยมากกว่านี้
สำหรับสวนสัตว์เปิดลักษณะนี้ทั่วประเทศไทย มีอยู่ 5 แห่ง หลังจากนี้จะต้องมีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบ เพื่อทบทวนมาตรการความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ และสัตว์ ปกติก็มีการลงพื้นที่มาตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้วทุก 1-3 เดือน
ด้านนายสดุดี พันธุ์ภักดี ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาเปิดเผยว่า การรับสิงโตของสวนสัตว์ได้รับเข้ามาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก ซึ่งขณะนี้สิงโตทั้งหมดมีอายุประมาณ 20 ปี โดยพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ที่เลี้ยงดูสิงโตบางส่วน และมีความชำนาญคุ้นชิน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากอุบัติเหตุ หรือความประมาท ส่วนนี้จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนประเด็นที่ขณะเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่บัดดี้ อยู่ด้วยนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องตรวจสอบ เนื่องจากอยู่ในข้อกำหนดมาตรการการทำงานของสวนสัตว์ ซึ่งทางสวนสัตว์ก็ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว
ขณะเดียวกัน กรมอุทยานยังได้เตรียมที่จะตรวจสอบสวนสัตว์ที่มีลักษณะ เป็นสวนสัตว์เปิดทั้ง 5 แห่งทั่วประเทศเพื่อสำรวจมาตรการรักษาความปลอดภัยว่ามีความเข้มงวดหรือไม่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้