เช้านี้ที่หมอชิต - คนที่ก่อคดี ทำผิด หลบหนีอย่างไรก็ไม่รอด ไปดูนาทีตำรวจปิดล้อมจับมือยิงเพื่อนบ้านนาน 3 ชั่วโมง ปมเหตุจากเรื่องจับแก้มลูกสาวคู่กรณี
เป็นภาพปฏิบัติการของตำรวจหลายนาย นั่งเรือหางยาวเข้าไปปิดล้อมบ้านหลังหนึ่ง ริมทะเลสาบสงขลา ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา หลังจากได้รับแจ้งว่า นายสุเทพ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ก่อคดียิง นายพงษ์ศักดิ์ อายุ 45 ปี เพื่อนบ้าน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 กันยายน หลบหนีมากบดานอยู่บ้านหลังนี้
โดยก่อนจะปรากฏภาพนี้ เมื่อวันก่อน ตำรวจสืบสวนทราบว่า นายสุเทพ หลบหนีมากบดานอยู่ที่บ้านริมทะเลสาบสงขลา แต่ยังจับกุมไม่ได้ ต้องให้ญาติช่วยเจรจาพามอบตัว ซึ่งในตอนแรกวันนั้น นายสุเทพ ยอมออกมาจากที่หลบซ่อน แต่ระหว่างนั่งเรือ นายสุเทพ เปลี่ยนใจ ไม่ยอมมอบตัว โดยขับเรือวนอยู่กลางทะเลสาบสงขลา นานหลายชั่วโมง เป็นครึ่งค่อนวัน ก่อนขับเรือไปส่งญาติที่ริมฝั่ง แล้วขับเรือหนีไปต่อ
ตำรวจเฝ้าติดตามมาตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน (วันแรกที่เกิดเหตุ) กระทั่งเมื่อวาน (10 ก.ย.) ได้รับแจ้งเบาะแสอีกครั้งว่า นายสุเทพ ย้อนกลับไปที่บ้านหลังเดิม (ริมทะเลสาบสงขลา) จึงนำกำลังไปปิดล้อม แต่พอ นายสุเทพ เห็นตำรวจ ชิงวิ่งหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน
ตำรวจ และญาติ ช่วยกันเกลี้ยกล่อมนานกว่า 3 ชั่วโมง นายสุเทพ มีอาการอิดโรย ยอมลงมามอบตัว พร้อมกับปืนขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นปืนกระบอกเดียวกับที่ใช้ยิงเพื่อนบ้านเสียชีวิต และเครื่องกระสุนปืนอีก 14 นัด
สอบปากคำ นายสุเทพ รับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง โดยมีต้นเหตุมาจากเรื่องที่ตนเองจับแก้มลูกสาวของ นายพงษ์ศักดิ์ ไม่พอใจ เปิดฉากดวลหมัด และยื้อแย่งปืนกัน พอตนเองแย่งปืนมาได้ใช้ยิง นายพงษ์ศักดิ์ 2-3 นัด เสียชีวิตทันที
เป็นคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา แต่ความผิดสำเร็จฆ่าคนตายแล้ว เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดีกับ นายพงษ์ศักดิ์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่น